ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จับคนไทยและชาวมาเลเซียคารั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย ขณะตัดรั้วขนใบกระท่อมเข้ามา 15 กระสอบ น้ำหนักรวม 450 กก. มาส่งให้พ่อค้าคนไทย โดยยังมีความผิดฐานลักลอบนำเข้าพืชเศรษฐกิจโดยไม่ผ่านกระบวนการศุลกากร แม้จะปลดล็อกแล้วก็ตาม
วันนี้ (5 ก.พ.) เจ้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่รับผิดชอบคุมพื้นที่แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย 7 หน่วย ทั้งทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ร่วมกับทหารร้อย ร.5021 ตชด.437 ฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา ศุลกากรสะเดา ตม.สงขลา และตำรวจ สภ.สะเดา ภายใต้การอำนวยการของ พ.อ.ฐนิตพนธ์ หงษ์วิไล ผบ.ฉก.ร.5 พ.ท.จตุพร ธานีพัฒน์ เสธ.ฉก.ร.5 พ.ต.กิตติคุณ ณ วาโย ผบ.ร้อย.ร.5021 ร.อ.รชานนท์ จอมเมือง หน.ฝยก.ฉก.ร.5 สั่งการให้ ร.ท.ชัยยศ คงกะพันธ์ หน.ฝขว.ฉก.ร.5 ร่วมกันจับกุม นายวิวัฒน์ หนูยก อายุ 33 ปี ชาว ต.ทุ่งหมอ อ.สะเดา จ.สงขลา และนายมูฮัมหมัดซากี บิน อับดุลเราะมาน อายุ 27 ปี ชาวมาเลเซีย คารั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย บริเวณหลักเขตแดนที่ 17 A/23 บ้านทับโกบ ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 4 ครึ่งที่ผ่านมา ขณะกำลังขนใบพืชกระท่อม จำนวน 15 กระสอบ น้ำหนักรวม 450 กิโลกรัม โดยหนักกระสอบละ 30 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 150,000 บาท จากฝั่งมาเลเซียเข้ามายังฝั่งไทย
จากการสอบถามทั้ง 2 คน บอกว่า ขนใบกระท่อมทั้ง 15 กระสอบ มาซ่อนไว้ริมถนนเลียบชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อรอรถกระบะมารับ โดยอ้างว่าได้รับการว่าจ้างจากพ่อค้าใบกระท่อม ชื่อนายแมค ไม่ทราบชื่อจริง ให้มาขนได้ค่าจ้างคนละ 500 บาท โดยใช้วิธีตัดรั้วลวดหนามชายแดนไทย-มาเลเซียขนเข้ามา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังออกลาดตระเวนมาพบ และจับกุมได้
ส่วนชายชาวมาเลเซีย บอกว่า มีภรรยาเป็นชาว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงลา และได้แอบมาหาภรรยาโดยลักลอบเข้าออกทางช่องทางธรรมชาติริมรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย ฝั่ง ต.ปาดังเบซาร์ โดยไม่ได้ผ่านการคัดกรองโควิด-19
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้ง 2 คน พร้อมใบกระท่อมส่งศุลกากรอำเภอสะเดา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยมีความผิดฐานลักลอบนำเข้าพืชเศรษฐกิจโดยไม่ผ่านกระบวนการศุลกากร นำเข้าโดยผิดกฎหมาย แม้ว่าในประเทศไทยใบกระท่อมจะปลดล็อกจากบัญชียาเสพติดแล้วก็ตาม แต่การลักลอบนำเข้ามาจากมาเลเซียยังผิดกฎหมายอยู่