ชุมพร - รวบ 2 คนไทยแก๊งค้ามนุษย์ พร้อมชาวพม่า 33 คน คาบ้านพักใกล้ตะเข็บชายแดน ขณะรอส่งต่อทำงานพื้นที่เป้าหมาย เสียค่าหัวรายละกว่า 2 หมื่นบาท
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (30 ม.ค.) ที่กองร้อย ตชด.414 (บ้านยายไท) อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ร.ต.อ.สุรเชษฐ์ ชุมดำ รอง ผบ.ร้อย ตชด.414 พร้อมด้วย ร.ต.อ.สมควร พิมพ์ทอง รอง สว.สืบสวน สภ.ท่าแซะ ร.ต.อ.ภินันท์ สมเขาใหญ่ รอง สวป.สภ.ท่าแซะ และนายอำนาจ เตชวรรณโต ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.ท่าแซะ ได้ควบคุมตัว นายธีระยุทธ หรือเม นาคดุค อายุ 28 ปี ชาว จ.ชุมพร และนายบุญเชิด หรือเยา ชุมภู อายุ 44 ปี ชาว จ.ชุมพร พร้อมด้วยชาวพม่า จำนวน 33 คน แยกเป็นชาย จำนวน 21 คน หญิง 12 คน มายังกองร้อย ตชด.414 (ยายไท) เพื่อทำการกักกันตัวและตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นเวลา 14 วัน ก่อนส่งดำเนินคดีคนไทยฐานะนำพา ซ่อนเร้น ให้ที่พักพิงแก่บุคคลต่างด้าว และชาวพม่า ฐานลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
สืบเนื่องมาจากเมื่อกลางดึกวันเดียวกัน พ.อ.ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผบ.ฉก.ร.25 กองกำลังเทพสตรี สืบทราบว่า มีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่า เข้ามาในราชอาณาจักรไทย แล้วนำมาพักไว้ที่บ้านเลขที่ 327 หมู่ 20 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงได้สั่งการให้หน่วยทหารชุดตรวจศิลาสลัก ร่วมกับจุดตรวจคลองจั่น (ร้อย ร.2521) และกำลังตำรวจตระเวนชายแดนที่ 414 และตำรวจ สภ.ท่าแซะ สนธิกำลังทำการจัดชุดซุ่มเฝ้าตรวจ จำนวน 2 ชุด ในพื้นที่เป้าหมาย
จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บม 6637 ชุมพร และรถยนต์กระบะตอนเดียว ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บร 8366 ชุมพร วิ่งตามกันมา สังเกตพบบริเวณด้านหลังกระบะบรรทุกคนมาเต็มทั้ง 2 คัน จากบ้านช่องหินหมู มุ่งหน้ามายังบ้านพันวาล 4 และเลี้ยวเข้าจอดบริเวณบ้านเลขที่ 327 หมู่ 20 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ ซึ่งเป็นบ้านเป้าหมาย สภาพเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวขนาดใหญ่ ปลูกใกล้เชิงเขากลางสวนปาล์มน้ำมัน ใกล้ชายแดนไทย-พม่า และรถทั้ง 2 คันได้ถอยท้ายกระบะกำลังนำคนจำนวนมากลงจากรถเข้าไปแอบภายในบ้านโดยมีผ้าใบสีฟ้าปิดด้านหน้า ชุดกำลังเจ้าหน้าที่จึงได้บุกจู่โจมเข้าไปทำการตรวจสอบและจับกุมบุคคลทั้งหมดไว้
จากการตรวจสอบทราบชื่อคือ นายธีระยุทธ หรือเม นาคดุค เป็นคนขับรถอีซูซุ ทะเบียน บร 8366 ชุมพร และเป็นเจ้าของบ้านดังกล่าว ส่วนรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน บบ 6637 ชุมพร มีนายบุญเชิด หรือเยา ชุมภู เป็นคนขับ ส่วนด้านหลังผ้าใบ เจ้าหน้าที่พบแรงงานต่างด้าวชาวพม่า จำนวน 33 คน แยกเป็นชาย จำนวน 21 คน หญิง 12 คน อายุตั้งแต่ 18-45 ปี จึงทำการตรวจสอบไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่สอบสวนคนขับรถทั้ง 2 คน ให้การว่าพวกตนมีบ้านอยู่ใกล้แนวชายแดนทำให้รู้จักกับชาวพม่า ชื่อนายกาก้า ซึ่งเคยมาทำงานอยู่ในประเทศไทย และนายกาก้า จะเข้าออกชายแดนอยู่เป็นประจำ ต่อมานานกาก้า ได้ชักชวนให้ช่วยขนชาวพม่า ออกจากพื้นที่ โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงินคนละ 1,500 บาท รับชาวพม่าบริเวณริมชายแดนบ้านช่องหินหมู ในการรับจะมีคนนำพาแรงงานทั้งหมดไปหลบซ่อนที่สวนยางพารา และเคลื่อนย้ายนำมาพักไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว จากนั้นจะมีคนมารับต่อเพื่อเดินทางไปส่งยังปลายทางโดยทำมาแล้ว จำนวน 2 ครั้ง
ส่วนชาวพม่าให้การว่า ทั้งหมดเดินทางมาจากภูมิเลานำต่างๆ ของประเทศ แล้วมาพักที่บ้านเอซานต้า อ.เขม่าจี จ.เกาะสอง จำนวน 2 วัน และเมื่อวันที่ 29 ม.ค.65 เวลาประมาณ 14.00 น. เดินทางด้วยรถตู้ 2 คัน มาพักคอยบริเวณชายป่าฝั่งประเทศพม่า เพื่อรอข้ามมาฝั่งประเทศไทยบริเวณบ้านช่องหินหมู โดยมีรถมารอรับ เสียค่าใช้จ่ายให้นายหน้าชาวพม่า คนละ 23,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่ผ่านมามีการลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดนไทย-พม่า บริเวณพื้นที่ ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร บ่อยครั้งเนื่องจากทางฝั่งประเทศพม่า ได้ก่อสร้างถนนลูกรังติดชายแดนไทย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชายแดน และตำรวจภูธร สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร สามารถจับกุมได้แล้วหลายครั้ง และขบวนการขนแรงงานเถื่อนซึ่งมีเครือข่ายใหญ่อยุ่ฝั่งประพม่าและเป็นเจ้าหน้ที่รัฐคนมีสีอยู่เบื้องหลัง จะรวบรวมชาวพม่า ที่ต้องการเข้ามาทำงานในประเทศไทย มาส่งให้ขบวนการแรงงานค้ามนุษย์ในประเทศไทย มารับและจัดส่ง โดยจะเปลี่ยนจุดรับส่งอยู่ตลอด หากจุดไหนสามารถเล็ดลอดไปได้จะใช้พื้นที่นั้นประจำ หากถูกจับก็จะเปลี่ยนไปจุดอื่น