นครศรีธรรมราช - เจ้าของร้านต้นไม้มงคลตัดพ้อ คุณโจรกระหน่ำลักต่อเนื่องสูญเงินนับแสน ทยอยขึ้นป้ายขอร้องยังไม่เป็นผล ขณะที่ตำรวจยังทำได้แค่เข้าตรวจในที่เกิดเหตุ
การโจรกรรมต้นไม้ราคาแพงในย่านบ้านศาลาบางปู หมู่ 10 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กลายเป็นปัญหาที่ผู้ประกอบการไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครได้ หลังจากถูกก่อเหตุอย่างต่อเนื่องนับ 10 ร้านติดต่อกัน โดยผู้ประกอบการร้านต้นไม้ได้เริ่มทยอยขึ้นป้ายขอร้อง “คุณโจร” ให้หยุดโจรกรรม ด้วยข้อความที่สุภาพเรียบร้อย ท่ามกลางผู้ที่ผ่านไปมาเห็นป้ายแล้วอดสงสารเจ้าของร้านไม่ได้
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ ล่าสุด วันนี้ (28 ม.ค.) หลายร้านต้นไม้ในย่านศาลาบางปู ได้ทยอยขึ้นป้ายข้อความขอร้องโจรอย่างต่อเนื่อง เช่น “คุณโจรที่น่ารัก กรุณาหยุดกิจการลักไว้ก่อน พวกพี่ๆ น้องๆ เดือดร้อนหนักแล้ว รักเธอนะถ้าหยุดลัก” หรือ “ท่านโจรผู้ทรงเกียรติ กรุณาประกอบกิจการโจรที่อื่น โชว์ฝีมือพอแล้วนะท่านโจร ด้วยความเคารพอย่างแรง” หรือ “คุณโจรโปรดทราบ เราเชื่อในฝีมือการลักของคุณ ทักษะเยี่ยมยอดแต่หยุดก่อนนะ ลัก แต่เหลือให้เจ้าของบ้าง” หรือ “คุณโจรที่เคารพ โปรดคืนสินค้าให้เราขายบ้าง หยุดลักก่อนนะจ๊ะ” โดยแต่ละป้ายนั้นเป็นข้อความที่สะท้อนถึงความท้อแท้ของเจ้าของที่ต้องประสบปัญหาการเข้าโจรกรรมของคนร้ายซ้ำซาก และต่อเนื่อง
นางเจริญรัตน์ จันทร์ส่งแก้ว ผู้ประกอบการร้านต้นไม้ในย่านนี้ที่ต้องเผชิญกับการโจรกรรมของหลายครั้ง กล่าวว่า โดย 2 ครั้งหลังถือว่าหนักหนาที่สุด ครั้งแรกสูญเสียสินค้าไปรวมมูลค่ากว่า 1.5 แสนบาท และครั้งหลังเสียหายไปอีกกว่า 5 หมื่นบาท และการแจ้งความก็แจ้งต่อเนื่อง วันนี้ได้ไปแจ้งมาอีกครั้ง ส่วนมากที่โดนจะโดนแบบซ้ำซาก ขอเรียกร้องไปถึงเจ้าหน้าที่ขอให้จับโจรได้บ้างเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งขณะนี้ยอมรับว่าหนักหนาสาหัสจนไม่รู้จะพึ่งพาใครได้
ส่วนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ผู้ประกอบการในย่านนี้ ระบุว่า หลังจากรับแจ้งความแล้วผู้ประกอบการจะได้ใบแจ้งความกลับมาไว้เป็นหลักฐาน ส่วนตำรวจจะเข้ามาตรวจที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นก็เงียบหายไปอีก ที่ผ่านมามีการโจรรมไปแล้วหลายสิบครั้งจากอย่างน้อย 12 ร้านที่ถูกก่อเหตุ ค่าเสียหายไม่น้อยกว่า 2-3 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายจะต้องมีใบสั่งจากกลุ่มที่รับซื้อแน่นอน เนื่องจากสามารถเลือกต้นไม้ได้เฉพาะที่มีราคาแพง และบางครั้งปรากฏในกล้องวงจรปิดดูโทรศัพท์ก่อนที่จะเลือกต้นไม้ และที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุมาอย่างต่อเนื่อง มีการจับกุมได้เพียงแค่ 1 คนเท่านั้น ทั้งที่มีการกระทำเป็นขบวนการ