ตรัง - “ตาเวช” ผู้เฒ่าวัย 75 ปี คนดีศรีเกาะสุกร ใช้เวลาว่างเก็บขยะบริเวณชายหาด จนสะอาดสะอ้าน น่ามอง เป็นประจำทุกวันมานานกว่า 30 ปี จนเป็นที่รักของคนบนเกาะ และนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
ที่หาดทรายทอง ซึ่งอยู่บริเวณหน้าเกาะสุกร หรือเกาะหมู ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง น.ส.ลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง ได้ไปเยี่ยมทำความรู้จักกับ “ตาเวช” หรือนายเวช ภูนนท์ อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 4 ต.เกาะสุกร มีภูมิลำเนาเดิมเป็นคน จ.อุดรธานี แต่มาทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ และทางภาคใต้ จนท้ายสุดมาทำงานก่อสร้างที่เกาะสุกรเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา ก่อนจะพบรักกับ นางละเมียด เสียมไหม อายุ 65 ปี หญิงหม้ายลูกติด และต่อมาตาเวช มีลูกชายด้วยกัน 1 คน ปัจจุบันอายุกว่า 20 ปีแล้ว
“ตาเวช” แห่งเกาะสุกร จะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับหาดทรายขาวละเอียดบริเวณหน้าบ้าน โดยใช้เวลาตลอดทั้งวันกับการเก็บกวาดใบไม้ที่ร่วงหล่น ขยะพลาสติก และขยะอื่นๆ ที่ลอยมากับน้ำทะเล ที่ดูรกหูรกตาให้ขาวสะอาด ทั้งนี้ ตาเวชจะใช้คราดในการชักลากใบไม้ หรือขยะมากองรวมกัน อันไหนที่ขายเป็นขยะรีไซเคิลได้จะแยกขาย ส่วนขยะที่ย่อยสลายได้กองรวมไว้เพื่อให้มันย่อยสลายเองตามธรรมชาติ สำหรับขยะอื่นๆ จะขนไปทิ้งในถังขยะของหมู่บ้าน นอกจากนี้ ตาเวชยังใช้จอบขุดทรายปรับพื้นที่ชายหาดทรายทองให้สวยงามอยู่เสมอ เนื่องจากจะมีความพิเศษกว่าหาดทรายบริเวณอื่นของเกาะ คือเป็นหาดทรายสีขาว เม็ดทรายละเอียดนุ่ม
สำหรับกิจวัตรประจำวันของ “ตาเวช” ชาวเกาะสุกรจะรู้จักกันดี เพราะตื่นเช้ามาจะเก็บกวาดขยะจนเกลี้ยงชายหาด และช่วงเย็นจะเก็บกวาดขยะอีกครั้ง ส่วนช่วงที่ลูกชายกลับจากออกเรือได้ปลามาในแต่ละวัน ตาเวชจะช่วยเอาปลา หรือสัตว์น้ำออกมาจากอวนจนเสร็จสิ้น ในขณะที่สภาพร่างกายของตาเวช เริ่มจะโรยราไปตามอายุขัย ทั้งหลังงอ เดินตัวงอ และหูตึง ทำให้ต้องพูดเสียงดังๆ เพื่อให้ได้ยินสิ่งที่ต้องการสื่อสาร แต่ด้วยความชราของคุณตา จึงทำให้พูดจาโต้ตอบกันได้ไม่มากนัก
“ตาเวช” แห่งเกาะสุกร เล่าว่า สาเหตุที่ตนเองมาเก็บกวาดขยะบริเวณหาดทรายทองทุกๆ วัน เพื่อให้เกิดความสะอาด ชาวบ้านหรือนักท่องเที่ยวจะเดินมาเที่ยวเล่นจะปลอดภัย โดยเฉพาะห่วงเด็กๆ ที่มาวิ่งเล่นบริเวณชายหาดแห่งนี้ อาจจะโดนขวดที่แตกบาด หรือทำอันตรายเอาได้ เมื่อตนเองมองเห็นปัญหาตรงนี้ จึงลุกขึ้นหยิบไม้กวาด และเก็บขยะทุกวันๆ ละ 2 เวลา เช้า-เย็น โดยขยะที่นี่จะมาจากท้องทะเลที่ซัดเข้ามาทุกวัน และส่วนใหญ่พัดพามาจากแหลมตะเสะ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเกาะสุกร
คุณตาเวช ยังเล่าอีกว่า ในอดีตตนเองเคยเป็นทหาร จะออกหน่วยไปพัฒนา หรือออกไปช่วยเหลือประชาชนในการเกี่ยวข้าว ที่ผ่านมา ลูกเมียเคยห้ามเสมอว่าไม่ต้องทำ เกรงว่าจะเป็นลมเป็นแล้ง ตกน้ำตกท่า ตามประสาคนอายุมาก แต่ตนเองไม่ยอม และจะลุกขึ้นมาทำความสะอาดชายหาดอยู่เสมอ ตามคำสอนจากพ่อแม่ที่บอกว่า ผู้ที่ส่งเรามาเกิด เราต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน อีกทั้งตนเองยังเป็นคนสะอาด มีระเบียบ จึงรักษาความสะอาดสิ่งต่างๆ เสมอมา ที่สำคัญคือทำไปแล้วมีความสุข
ส่วนคำบอกเล่าของเพื่อนบ้านทราบมาว่า บ่อยครั้งที่เพื่อนบ้านบนเกาะสุกร จะแวะมาทักทายพูดคุยเป็นเพื่อนกับตาเวช ในช่วงที่กำลังทำความสะอาดชายหาด บางครั้งมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยม หรือซื้อหาขนม และข้าวของต่างๆ มาฝากคุณตาอีกด้วย