ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ว่าฯ สงขลาเข้าตรวจสอบห้องเย็นใน อ.จะนะ จ.สงขลา หลังปศุสัตว์พบมีเนื้อสุกรจาก จ.พัทลุง มาฝากไว้กว่า 2 แสนกิโลกรัมในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แต่นำออกเพียงเล็กน้อย สั่งสอบว่าเอี่ยวกักตุนทำให้เนื้อสุกรมีราคาสูงด้วยหรือไม่
วันนี้ (20 ม.ค.) จังหวัดสงขลา พร้อมทั้งปศุสัตว์จังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบห้องเย็นบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งใน อ.จะนะ จ.สงขลา ตามแผนการปฏิบัติงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในการตรวจสอบห้องเย็นกรณีที่อาจมีการกักตุนสินค้าประเภทเนื้อสุกร
และพบว่าในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา มีการนำเนื้อสุกรจากบริษัท เบทาโกร เกษตรอุตสาหกรรมใน จ.พัทลุง เข้ามาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเย็นดังกล่าว จำนวน 211,361 กิโลกรัม และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบวานนี้ (19 ม.ค.) พบว่า มีเนื้อสุกรคงคลัง 201,650 กิโลกรัม ปศุสัตว์จังหวัดจึงได้สั่งอายัดไว้เพื่อรอการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักตุนทำให้เนื้อสุกร หรือเนื้อหมูมีราคาแพงด้วยหรือไม่
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์ณัฐชัย วรสุทธิ์ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์สงขลา พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา รวมทั้งเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ พาณิชย์จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางมาตรวจสอบเนื้อสุกรที่แช่อยู่ในห้องเย็นดังกล่าวภายในบริษัท ปิติซีฟูดส์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 125/1 ม.5 ถ.สงขลา-ปัตตานี ต.บ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งได้สั่งอายัดเนื้อสุกรเอาไว้แล้ว 201,650 กิโลกรัมตั้งแต่วานนี้ โดยห้ามเคลื่อนย้ายจนกว่าการตรวจสอบจะแล้วเสร็จ
ในการหารือกันช่วงแรก ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปประชุมร่วมกับทางบริษัทห้องเย็น และบริษัทที่เป็นเจ้าของเนื้อสุกร เป็นการภายในก่อนในช่วงแรก โดยยังไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปข้างใน
ภายหลังหารือเกือบ 1 ชั่วโมง ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยในเบื้องต้นว่า เนื้อสุกรที่ถูกแช่แข็งไว้ 201,650 กิโลกรัมนั้นอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบตั้งแต่ต้นทางจากบริษัทผู้รับฝาก และเจ้าของเนื้อสุกรจาก จ.พัทลุง คือ บริษัท เบทาโกร และบริษัท ปิติซีฟูดส์ ใน อ.จะนะ จ.สงขลา ที่ทำหน้าที่ให้บริการห้องเย็น ทั้งในส่วนของเอกสารรับส่งทั้งหมด เนื่องจากเบื้องต้นพบว่า มีการนำเนื้อสุกรเข้ามาเป็นจำนวนมากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แต่มีการนำออกไปเพียงแค่เล็กน้อยราว 10,000 กิโลกรัมเท่านั้น
"ขณะนี้ได้มอบหมายให้ นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ระหว่างการประชุมกับบริษัททั้ง 2 แห่ง เพื่อยืนยันทั้งในส่วนของเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ยังระบุไม่ได้ว่าเข้าข่ายการกักตุนหรือไม่ ซึ่งหากมีความผิดจะถูกดำเนินคดีทั้ง 2 บริษัท แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะเป็นความเป็นธรรมและตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา โดยคาดว่า การประชุมร่วมกันน่าจะพอได้ข้อสรุปในช่วงเย็นนี้" นายเจษฎา กล่าว
นายเจษฎา ยังกล่าวด้วยว่า จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะยังคงเข้าตรวจสอบห้องเย็นทั้งหมดที่ตั้งอยู่ใน จ.สงขลาไปจนถึงช่วงสิ้นเดือนนี้ ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งในพื้นที่ จ.สงขลา พบว่า มีหลายบริษัทที่เปิดให้บริการห้องเย็นในลักษณะเดียวกันนี้ แต่ส่วนมากจะเป็นสินค้าประเภทอื่น โดยเฉพาะอาหารทะเลเป็นส่วนใหญ่