ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สาวไทยภรรยานักลงทุนชาวอังกฤษ มอบอำนาจให้ชายชาวอังกฤษ พร้อมทีมทนายความ เข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญาต่อผู้รับโอนหุ้นและผู้ครอบครอง “เดอะ ซัมเมอร์ พาเลซ” โครงการอสังหาฯ ขนาดใหญ่ในพื้นที่ ต.ราไวย จ.ภูเก็ต เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม และปกป้องทรัพย์สินของตนเอง หลังสามีเสียชีวิต โครงการไม่มีการพัฒนาต่อ และที่ดินโครงการถูกขายไปบางส่วน
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (13 ม.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต นายวินเซ้นท์ จอห์น แมคโอเว่น ชาวอังกฤษ ผู้รับมอบอำนาจจากภรรยาชาวไทยของนักลงทุนชาวอังกฤษ เจ้าของโครงการเดอะซัมเมอร์ พาเลซ ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ พร้อมด้วยคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย นำโดย นายณรงค์ฤทธิ์ เนติเกียรติวงศ์ และนายสาโรจน์ กูลดีน ซึ่งเป็นทนาย ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อแจ้งความดำเนินคดีอาญาต่อบุคคลผู้รับโอนหุ้นและผู้ครอบครองกิจการ เดอะ ซัมเมอร์ พาเลซ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
เนื่องจากตรวจสอบพบว่า บุคคลดังกล่าวไม่ได้เข้ามาพัฒนาโครงการตามที่ได้ทำสัญญาไว้กับนายสตีเว่น นอกนั้นแล้ว ยังมีการนำที่ดินบางแปลงออกจำหน่ายให้บุคคลภายนอก ตลอดทั้งมีการนำที่ดินบางแปลงเข้าจำนองกับบุคคลภายนอก ซึ่งภรรยาชาวไทยผู้มีอำนาจในบริษัทไม่มีส่วนรู้เห็นและไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย การกระทำดังกล่าวจึงถือได้ว่าเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายอาญา และยังเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติหุ้นส่วนบริษัท พ.ศ.2499 มาตรา 41 ที่บัญญัติว่าบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบริษัทจำกัด กระทำการหรือไม่กระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเองหรือผู้อื่นอันเป็นการเสียหายแก่นิติบุคคลดังกล่าว ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท และมาตรา 42 ที่บัญญัติว่า บุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วน จำกัด กระทำหรือยินยอมให้กระทำ ซึ่งนอกจากจะใช้สิทธิทางด้านคดีอาญาแล้ว จะใช้สิทธิทวงความเป็นธรรมในคดีแพ่งต่อไป
นายณรงค์ฤทธิ์ เนติเกียรติวงศ์ ทนายความ เปิดเผยว่า การได้รับมอบหมายจากภรรยาของนักลงทุนชาวอังกฤษมาแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้ เนื่องจาก นายสตีเว่น เจมส์ แกรนด์วิลล์ เป็นนักธุรกิจชาวอังกฤษ เข้ามาประเทศไทยเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ จ.ภูเก็ต เริ่มจากเป็นผู้ก่อตั้งและพัฒนาโครงการโรงแรม ภูเก็ตยอร์ช คลับ ซึ่งเมื่อดำเนินการเสร็จแล้วได้ขายกิจการดังกล่าว เพื่อมาลงทุนต่อในโครงการ เดอะ ซัมเมอร์ พาเลซ ภายใต้บริษัท ปุระวนา รีสอร์ท จำกัด ในเนื้อที่ 110 ไร่เศษ ที่ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งภายในโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย โรงแรมหรู บ้านพักอาศัย และ คอนโดมิเนียมระดับ 5-6 ดาว สำหรับขายหรือให้เช่าระยะยาว ซึ่งกิจการดังกล่าวมูลค่าลงทุนประมาณ 3,000-3,500 ล้านบาท
โดยโครงการเริ่มมาตั้งแต่ปี 2551 และโครงการได้พัฒนาไปแล้ว 60-80% แต่นายสตเว่น เจมส์ แกรนด์วิลล์ มีปัญหากับพนักงานบริษัทระดับผู้บริหาร จึงมีการถูกกลั่นแกล้งแจ้งความดำเนินคดีอาญา ด้วยข้อกล่าวหาฉ้อโกงประชาชน จนถูกจับกุมและถูกดำเนินคดี ปัจจุบันคดีดังกล่าวได้ถึงที่สุดแล้ว โดยศาลพิพากษายกฟ้อง แต่ระหว่างการต่อสู้คดีอาญา นายสตีเว่น เจมส์ แกรนด์วิลล์ ถูกคุมขังอยู่เป็นระยะเวลานาน เนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัว โดยเหตุผลว่าหากให้ประกันตัวจะหลบหนี แต่เมื่อคดีถึงที่สุด ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องจึงกลับมายังจังหวัดภูเก็ต เพื่อพัฒนาโครงการ เดอะ ซัมเมอร์ พาเลซ ต่อ แต่โครงการได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก เนื่องจากถูกทิ้งร้างในระหว่างต่อสู้คดี และไม่มีเงินลงทุนต่อ
จึงได้รับการติดต่อจากบุคคลผู้มีชื่อ อ้างว่ามีเงินทุนที่จะร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว นายสตีเว่น หลงเชื่อจึงได้โอนหุ้นที่ถืออยู่พร้อมส่งมอบกิจการให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาบริหารและพัฒนาโครงการต่อ โดยมีการทำบันทึกข้อตกลงและสัญญาไว้ต่อกัน แต่หลังจากมีการโอนหุ้นและส่งมอบกิจการประมาณ 7 วัน ปรากฏว่า นายสตีเว่น ได้รับบาดเจ็บซึ่งไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือเกิดจากการถูกฆาตกรรม จนปัจจุบันได้เสียชีวิตแล้ว แต่หุ้นที่โอนให้บุคคลผู้มีชื่อนั้น นายสตีเว่น ได้โอนหุ้นส่วนหนึ่งให้กับภรรยาชาวไทยถือครองไว้ และให้มีอำนาจในการประชุมคัดค้านการโอนหรือจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัท แต่ภรรยาชาวไทยไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เนื่องจากถูกกลุ่มบุคคลที่รับโอนหุ้น แจ้งความดำเนินคดีและกล่าวหาว่า ลักทรัพย์สินของบริษัท จนภรรยาชาวไทยเกิดความเกรงกลัว จึงต้องหลบหนีและไม่กล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับโครงการเดอะ ซัมเมอร์ พาเลซ อีก
แต่ปัจจุบัน ภรรยาชาวไทยผู้ถือหุ้นในโครงการ เดอะ ซัมเมอร์ พาเลซ ต้องการที่จะเรียกร้องและขอความเป็นธรรมให้สามีผู้เสียชีวิต และต้องการที่จะปกป้องทรัพย์สินที่เป็นของตนเอง จึงได้มอบอำนาจให้นายวินเซ้นท์จอห์น แมคโอเว่น และคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย นำโดยนายณรงค์ฤทธิ์ เนติเกียรติวงศ์ นายสาโรจน์ กูลดีน ซึ่งเป็นทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อแจ้งความดำเนินคดีอาญาต่อบุคคลผู้รับโอนหุ้นและผู้ครอบครองกิจการเดอะ ซัมเมอร์ พาเลซดังกล่าว