ตรัง - ร้านติ่มซำเมนูชื่อดังเมืองตรัง ยอมแบกรับภาระวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเนื้อหมู จนทำให้ต้นทุนสูงขึ้นถึง 50% แต่ยังคงกัดฟันขายราคาเท่าเดิม ขณะที่ข้าวหมูแดง-หมูกรอบต้องขยับขึ้นราคาแล้ว
วันนี้ (13 ม.ค.) จากสถานการณ์วัตถุดิบที่ปรับขึ้นราคา ทั้งหมู ไก่ เป็ด หรือไข่ ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะผู้ประกอบการหลายรายที่ยังคงพยายามพยุงราคาขายคงเดิม เพราะสงสารผู้บริโภค แม้ต้นทุนการผลิตจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 50% อย่างที่ร้านเขียวโอชา บนถนนรักษ์จันทน์ ในเขตเทศบาลนครตรัง พบว่าบรรยากาศยามเช้ายังคงมีลูกค้ามานั่งกินติ่มซำ เมนูชื่อดังกันอย่างต่อเนื่อง
"เจ๊เขียว" นางกวินนาถ โพธิ์วิจิตร อายุ 53 ปี เจ้าของร้านเขียวโอชา บอกว่า ในแต่ละวันทางร้านได้เตรียมติ่มซำ 60-70 ชนิด และเมนูอาหารอื่นๆ เช่น ข้าวหมูแดง โจ๊ก ปาท่องโก๋ ก๋วยเตี๋ยวหมู ในตอนนี้ต้นทุนทุกอย่างขึ้นราคาหมด โดยเฉพาะเนื้อหมู ซึ่งในร้านจะใช้เนื้อหมูในการทำติ่มซำถึง 80% แต่ยังคงตรึงราคาเดิมไว้ก่อน คือ ขายเข่งละ 15-20 บาท แม้ว่าน้ำมัน แป้งจะขึ้นราคาตามมาด้วย แต่ทางร้านยังคงพยุงราคาไว้เท่าที่จะทำได้ เพราะสงสารผู้บริโภค แต่ไม่รู้จะพยุงไปได้อีกสักแค่ไหน เพราะของขึ้นราคาทุกวัน แถมยังต้องปรับขึ้นค่าแรงให้พนักงานที่มีทั้ง 20 คน เพิ่มอีกเล็กน้อย เพราะค่าครองชีพสูงขึ้นทุกวัน
ในส่วนของลูกค้าที่เข้ามาในร้านจะเลือกบริโภคมากขึ้น เนื่องจากบางเมนูจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาแล้ว เช่น ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ขึ้นมาจานละ 5 บาท จากเดิมจานละ 45 บาท เป็นจานละ 50 บาท อย่างไรก็ตาม ลูกค้าจะเปลี่ยนไปกินโจ๊กปลา หรือข้าวมันไก่ ซึ่งมีราคาคงเดิมแทน ดังนั้น ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้จึงอยากให้รัฐบาลช่วยควบคุมราคาสินค้า หรือลดราคาให้เท่าเดิม เพราะหากปล่อยให้ราคาสูงแบบนี้ ผู้ประกอบการอยู่ไม่ได้ และผู้บริโภคเองต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด เพราะรายจ่ายประจำวันสูง ในขณะที่ค่าแรงเท่าเดิม
นางพัชรี รอดเพชร อายุ 55 ปี ลูกค้าที่มากินติ่มซำ บอกว่า ช่วงนี้มีรับประทานอาหารนอกบ้านบ้าง แต่สังเกตได้ว่าอาหารที่มีหมูเป็นส่วนประกอบ พ่อค้าแม่ค้าจะให้ปริมาณน้อยลง แต่จำหน่ายในราคาเดิม และบางร้านจะมีการเพิ่มราคาขึ้นบ้างจานละ 5-10 บาท ตนจึงต้องปรับตัวด้วยการทำกับข้าวกินเองที่บ้านเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะทำแล้วสามารถกินได้ตลอดทั้งวัน
ส่วนนางจันทิมา มุณีกุล ลูกค้าที่มากินติ่มซำอีกราย บอกว่า ตนจ่ายตลาดทุกวันพบว่าหมู ไก่ ไข่ น้ำมัน ผักราคาเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ตนใช้วิธีเลี่ยงรับประทานของแพง ด้วยการกินโปรตีนอย่างอื่นทดแทนที่ราคาต่ำกว่า ซึ่งภาวะของแพงมีผลกระทบต่อทุกคน แต่ว่า จ.ตรัง ยังคงได้เปรียบตรงที่มีเมนูอาหารให้เลือกกินหลากหลาย แต่ตนพบว่าหลายร้านอาหารยังคงพยายามตรึงราคาเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค แต่หากราคาวัตถุดิบยังสูงต่อเนื่องเช่นนี้ ตนเข้าใจว่าร้านอาหารต้องปรับตัว และต้องขึ้นราคาในที่สุด
