พัทลุง - เจ้าหน้าที่พยาบาลห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลพัทลุง เตือนเป็นอุทาหรณ์ หลังเกิดเหตุเด็กหญิง 3 ขวบ กินลูกชิ้นแล้วเกิดสำลักติดหลอดลม โชคดีทีมแพทย์เข้าช่วยเหลือได้ทันทำให้ปลอดภัย พร้อมแนะวิธีช่วยเหลือเบื้องต้น
วันนี้ (11 ม.ค.) จากกรณีที่เด็กผู้หญิงวัย 3 ปี 8 เดือน ญาติส่งมารักษาตัวหลังจากเกิดอาการช็อกขาดอากาศหายใจ ลำตัวเขียว เนื่องจากสำลักลูกชิ้นติดในหลอดลม จนกระทั่งมาถึงโรงพยาบาลพัทลุง แพทย์ได้ช่วยเหลือจนสามารถต่อลมหายใจให้น้องได้ เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) โดยมีการโพสต์เฟซบุ๊กของเจ้าหน้าที่พยาบาลห้องฉุกเฉิน เพื่อเตือนเป็นอุทาหรณ์ โดยเฟซบุ๊ก “Tanyaporn Kaewyok” ระบุว่า
#เรื่องเล่าวันอยู่เวร
วันนี้นั่งตำแหน่งรับคนไข้ ซักประวัติหน้าห้องฉุกเฉิน….รถกระบะคันนึ่งบีบแตรรัวๆ เร่งคันเร่งเต็มที่ มุ่งหน้าขึ้นมาบนห้องฉุกเฉิน เรารีบลุกขึ้น ตอนนั้นได้ยินแต่เสียงกรี๊ดร้องของญาติในรถไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เปิดประตูรถออกมาพบญาตินั่งอุ้มเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ร่างไร้ลมหายใจ หน้าเขียว เลือดกบปาก ญาติไม่สามารถพูดอะไรได้นอกจากกรีดร้อง เรารีบขึ้นปั๊มหัวใจเด็กคนนั้นทันที เด็กไม่ตอบสนอง ทีมพร้อมรับ ใส่ท่อช่วยหายใจ ทันทีที่อ้าปากเด็ก พบว่ามีก้อนกลมๆ อุดกั้นทางเดินหายใจเด็กอยู่ เราก็ปั๊มไป หมอใส่ท่อเสร็จ คีบก้อนนั้นออกมา เด็กเริ่มตื่น ทุกคนในทีมร้องเฮดังลั่นจนลืมตัวว่ายุในชุดขาว….รอดแล้วนะลูก
ประวัติเพิ่มเติมจากญาติ….เด็กกินลูกชิ้นแล้วติดคอหลังจากนั้นก็นิ่งไป หน้าเขียวตัวเขียว ไม่หายใจ
#ฝากเป็นอุทาหรณ์กับญาติและผู้ปกครองทุกท่านด้วย
เด็กอายุ 3 ขวบ น้ำหนัก 30 กิโล
ซึ่งล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามพยาบาลคนดังกล่าวทราบชื่อคือ น ส.ธัญญาพร แก้วยก หรือกวาง แผนกเวชกิจฉุกเฉิน เปิดเผยว่า ขณะที่เข้าเวรญาติได้นำส่งเด็กชายคนดังกล่าวมาถึงญาติได้แต่ร้อง น้องลำตัวเขียว จึงได้นำขึ้นแปล และช่วยกันปั๊มหัวใจ ก่อนที่ตะโกนให้เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินเตรียมเครื่องช่วยหายใจ โดยเจ้าหน้าที่เร่งทำงานเป็นทีม ก่อนแพทย์เข้ามาประเมินสถานการณ์ จนทราบว่าลูกชิ้นที่เด็กกินติดในหลอดลมจึงได้เอาออกมา พร้อมทั้งใช้เครื่องช่วยหายใจจนเด็กฟื้น และเข้าพักฟื้นยังห้องไอซียู เพื่อดูอาการพบว่าอาการดีขึ้นตามลำดับ
ด้าน นพ.ณัฏฐภัทร ถารพัฒนพงศ์ นายแพทย์ชำนาญการ รพ.พัทลุง กล่าวว่า ช่วงที่นำตัวเด็กเข้าห้องฉุกเฉินทุกคนเตรียมพร้อมเพื่อช่วยเหลือ โดยขออนุญาตบอกผู้ป่วยรายอื่นข้างๆ ว่าขอให้หมอไปช่วยเคสฉุกเฉินรายนี้ก่อน ผู้ป่วยรายอื่นรวมถึงญาติก็บอกหมอว่ารีบเลยช่วยเด็กก่อน จนกระทั่งทราบว่าเด็กกินลูกชิ้นแล้วเกิดสำลักอาหารไปติดในหลอดลม ก่อนใช้คีมดึงออกพร้อมทั้งใช้เครื่องช่วยหายใจ พอเด็กฟื้นและตอบสนอง ทั้งผู้ป่วยรายอื่นและญาติที่อยู่ข้างนอก หมอพยาบาล เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินต่างก็ดีใจไปตามๆ กัน
ขณะที่ นางจำนงค์ จันทรสิงห์ หัวหน้างานอุบัติเหตุฉุกเฉิน รพ.พัทลุง กล่าวว่า เฉพาะเมื่อวานนี้มีเด็กที่ส่งเข้ามารักษาตัวยังห้องฉุกเฉินขาดอากาศหายใจถึง 2 ราย โดยรายแรกเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้า แพทย์พยาบาลได้ช่วยจนเด็กปลอดภัย และช่วงบ่ายเด็กชายวัย 3 ปี สำลักอาหาร แพทย์พยาบาล และเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันจนสามารถต่อลมหายใจให้น้องได้สำเร็จ ถือเป็นความโชคดีของน้องทั้ง 2 ราย
ด้าน นพ.จรุง บุญกาญจน์ ผอ.รพ.พัทลุง กล่าวว่า ภาวะเด็กสำลักอาหารเกิดขึ้นบ่อย จึงอยากฝากถึงผู้ปกครองช่วยดูแลลูกหลานให้ทั่วถึง ตอนทานอาหารอย่าชวนเด็กหัวเราะ ซึ่งในการช่วยเหลือเบื้องต้นเมื่อผู้ปกครองเจอเด็กสำลักอาหาร วิธีช่วยเหลือเมื่อทารกสำลัก เมื่อลูกสำลัก ให้จับลูกคว่ำหน้าลงโดยให้ศีรษะอยู่ต่ำกว่าหน้าอก และใช้ฝ่ามือข้างที่ถนัดพยุงศีรษะของเด็กเอาไว้ โดยระวังอย่าให้มือไปปิดจมูกหรือปากของเด็ก
จากนั้นวางแขนข้างที่พยุงเด็กไว้บนต้นขา ใช้มือตบลงบนสันหลังตรงกระดูกสะบัก 4 ครั้งติดๆ กัน หากอาหารหรือสิ่งแปลกปลอมไม่ออกมา ให้คุณแม่จับเด็กหงายขึ้นและวางบนแขนที่อยู่บนหน้าตัก ให้ศีรษะลูกชี้ลงไปที่พื้น ใช้นิ้ว 3 นิ้วของแม่กดบริเวณใต้ตอลิ้นปี่เบาๆ กดประมาณ 4-5 ครั้ง ตรวจดูสิ่งแปลกปลอมในช่องปากของเด็ก หากพบให้เอาออก และทำการช่วยหายใจ จับหน้าผากลูกและเชยคางขึ้น เพื่อให้ทางเดินหายใจเปิด
“การปฐมพยาบาลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เหมาะสำหรับการช่วยเหลือเด็กทารกและเด็กเล็ก แต่หากเป็นเด็กโตจะใช้วิธีอื่นที่ยากกว่านี้หน่อย ซึ่งหากปฏิบัติเบื้องต้นตามที่กล่าวมาแล้วไม่พบอาหารหรือสิ่งแปลกปลอมในช่องปากให้เรียกรถพยาบาลเพื่อการช่วยเหลือที่ ทันท่วงที” นพ.จรุง บุญกาญจน์ ผอ.รพ.พัทลุง กล่าว