กระบี่ - อุทยานฯ หมู่เกาะพีพี นำตัวแทนผู้ประกอบการและมัคคุเทศก์ดูพื้นที่อ่าวมาหยา ก่อนเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวได้ตั้งแต่ 1 ม.ค.นี้เป็นต้นไป แต่ห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด เพื่อไม่ให้รบกวนฝูงฉลามหูดำกว่า 100 ตัว และกุ้งมังกรเจ็ดสี ฝ่าฝืนปรับหนัก
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ประชุมตัวแทนผู้ประกอบการนำเที่ยว และตัวแทนมัคคุเทศก์ จังหวัดกระบี่ พังงา และจังหวัดภูเก็ต ร่วมหามาตรการแนวทางการนำนักท่องเที่ยวเข้าไปในพื้นที่อ่าวมาหยา ในวันที่ 1 มกราคม 2565 และได้ขอให้อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้นำตัวแทนดังกล่าวลงพื้นที่เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวได้ถือและปฏิบัติตามมาตรการของอุทยานอย่างเคร่งครัด
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายปราโมทย์ แก้วนาม หัวหน้าอุทยานห่างชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ได้ชี้แจงทำความเข้าใจก่อนที่จะนำตัวแทนผู้ประกอบการนำเที่ยว และตัวแทนมัคคุเทศก์จังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร จำนวน 80 คน ลงพื้นที่อ่าวมาหยา อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เพื่อประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการต่างๆ รวมถึงมัคคุเทศก์ ตลอดจนนักท่องเที่ยวได้ถือและปฏิบัติตามมาตรการของอุทยานอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีนายสุคนธ์ หนูช่วย นายกสมาคมมัคคุเทศก์จังหวัดกระบี่ เลขาธิการสมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย และนายไพศาล ซื่อธานุวงศ์ กรรมการสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ด้วย
โดยนายปราโมทย์ ได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ประกอบการนำเที่ยวที่สามารถนำนักท่องเที่ยวเข้าไปเหยียบอ่าวมาหยาได้ ต้องเปิดจองผ่านแอปคิวคิว ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชก่อน จากนั้นสามารถเข้าได้ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. ซึ่งใช้เวลา 1 ชั่วโมงต่อรอบ รวม 11 รอบๆ ละ 375 คน 4,125 ต่อวัน ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาด เพื่อที่จะรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำที่หายากและใกล้จะสูญพันธ์ เช่น ฉลามหูดำ ที่มีมากกว่า 100 ตัว และกุ้งมังกร 7 สี แต่สามารถเดินเล่นและนอนหน้าชายหาดได้ หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษถูกปรับตามอัตราที่กรมอุทยานฯ กำหนด
และจากการลงพื้นที่อ่าวมาหยาในครั้งนี้ ทางตัวแทนผู้ประกอบการนำเที่ยว และตัวแทนมัคคุเทศก์จังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร ต่างพอใจกับบรรยากาศและธรรมชาติในอ่าวมาหยาเป็นอย่างมาก ทั้งพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า ภายในระยะเวลา 3 ปีเศษ ทางอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ สามารถพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาได้ดีกว่าเดิมหลายเท่า ไม่ว่าจะเป็นท่าเทียบเรือ เส้นทางเดินเท้า ชายหาดที่มีหาดทรายขาวละเอียด พันธุ์ไม้หน้าชายหาด รวมถึงความสะอาดในท้องทะเล ซึ่งเชื่อว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวอ่าวมาหยาโฉมใหม่นี้จะประทับความทรงจำเอาไว้อย่างไม่รู้ลืม และอยากจะมาเที่ยวอีกอย่างไม่เบื่อ
นายสุคนธ์ หนูช่วย นายกสมาคมมัคคุเทศก์จังหวัดกระบี่ เลขาธิการสมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการมาสำรวจครั้งนี้ไม่ว่าเป็นสะพานท่าเทียบเรือในส่วนของมัคคุเทศก์ที่มาจากจังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต และกรุงเทพฯ มาดูสภาพแล้วพอใจแต่ว่าต้องปรับแก้ไปตามสภาพตามความเป็นจริง เพราะว่าเวลาปฏิบัติจริงๆ ต้องมีการแก้กันหน้างาน ในส่วนไม่ให้เล่นน้ำบริเวณหน้าชายหาดเห็นด้วย เพราะว่าเราท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ท่องเที่ยวแบบเชิงอนุรักษ์ อีกอย่างหนึ่งอ่าวมาหยามีฝูงปลาฉลามหูดำอาศัยอยู่กว่า 100 ตัว ถ้าเราอนุรักษ์เอาไว้จะเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของอ่าวมาหยา ถ้าโดยสภาพทั่วไปที่สำหรับเดิน สะพานมีความพร้อมเต็มที่ แต่วิธีการต่างๆ บอกแล้วว่าเราสามารถปรับหน้างานได้
อยากจะฝากไปถึงมัคคุเทศก์ทุกคนที่ทำทัวร์มาอ่าวมาหยา และอุทยานแห่งชาติทุกแห่ง ให้มีการศึกษาข้อมูลระเบียบให้ชัดเจน ข้อห้ามข้อควรระวัง ต้องให้ข้อมูลความรู้แก่นักท่องเที่ยวให้ชัดเจนว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ถ้าหากว่าไม่ให้ข้อมูลกับนักท่องเที่ยวชัดเจน ปัญหาจะเกิดกับทัวร์ของคุณและตัวคุณเองต้องรับผิดชอบ ในนามของสมาคมมัคคุเทศก์จังหวัดกระบี่ และสมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย มีความเห็นว่าเราต้องปรับต้องเปลี่ยนดูหน้างานอีกที สำหรับการจองคิวคิว ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้มีการจองบัตรคิว ต้องดูต้องปรับไปว่าหน้างานเป็นอย่างไร เพราะกติกาต่างๆ เรายังแก้ไขและปรับปรุงได้อยู่