สุราษฎร์ธานี - ทช. ร่วมกับ ปตท.สผ.เชิญชวนนักบริโภคปูทะเลไข่หยุดกินปูทะเลตัวเมียในช่วงฤดูมีไข่เต็มท้อง หวังเพิ่มปริมาณปูทะเลในธรรมชาติ หลังมีปริมาณลดลงอย่างน่าใจหาย และมีราคาแพงถึงกิโลกรัมละ 2,000 บาท
นายวิชัย สมรูป ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย น.ส.ศุภจิตรา ทองฉวี ผจก.แผนกโครงการเพื่อสังคม ตัวแทน ปตท.สผ. นายปิยะ แซ่เอีย ประธานธนาคารปูม้า บ้านหาดสมบูรณ์ และ นายวิรัช คำแก้ว ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้าน อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ได้จัดเวทีเสวนาชักชวนนักบริโภคปูทะเลไข่ให้ละเว้นการกินปูทะเลตัวเมียที่มีไข่ เพื่อหวังเพิ่มปริมาณปูในทะเล หลังจากปูทะเลที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีปริมาณลดลงอย่างน่าใจหาย และราคาแพงถึงกิโลกรัมละ 2,000 บาท หากไม่ร่วมกันฟื้นฟูในอนาคตอาจจะสูญพันธุ์ไปจากทะเลไทย โดยได้นำปูทะเลตัวผู้ตัวใหญ่ๆ ที่นึ่งไว้เต็มถาดและปูไข่ (ปูทะเลตัวเมีย) จำนวน 2 ตัว พร้อมไข่เค็มไชยา มาเปรียบเทียบในด้านของคุณค่าทางอาหาร
นายวิชัย สมรูป ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ปูทะเลมีด้วยกัน 2 เพศ โดยแบ่งเป็นปูตัวเมียและปูตัวผู้ ในเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมของทุกปีจะเป็นฤดูที่ปูตัวเมียมีไข่และเตรียมขยายพันธุ์ ปัจจุบันค่านิยมในการบริโภคปูไข่ หรือปูตัวเมียค่อนข้างสูงจนมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละกว่า 2,000 บาท จึงเป็นปัจจัยหลักทำให้กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านจับไปขายจำนวนมาก จึงทำให้ปริมาณปูทะเลลดปริมาณลง แม่พันธุ์ถูกจับไปขายสู่ตลาดบริโภค ไม่อาจขยายพันธุ์ออกลูกออกหลานเป็นห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ในอนาคต ซึ่งขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่ออาชีพชาวประมงพื้นบ้าน เนื่องจากปูทะเลตามธรรมชาติลดน้อยหายไป
ทางสำนักทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 สุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกับทุกฝ่ายช่วยกันรณรงค์ขอความร่วมมือจากชาวประมงพื้นบ้านที่จับปูไข่ และนักบริโภคปูไข่ให้ชะลอการกินปูไข่ในช่วงปูไข่ออกไข่ขยายพันธุ์ เพื่อหวังเพิ่มปริมาณปูทะเลในธรรมชาติให้มากขึ้น พร้อมแนะนำให้มาบริโภคปูทะเลตัวผู้แทนตัวปูทะเลตัวเมีย และหันมากินไข่เค็มไชยาที่ไข่แดงรสชาติอร่อยไม่แพ้ไข่ปูทะเลเช่นกัน
นายวิชัย ยังย้ำว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยนั้น ที่นักท่องเที่ยวต้องการจะเป็นเรื่องอาหารทะเลและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สำหรับประเทศไทยมีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลกว่า 3.000 กิโลเมตรหากมีการจัดการหรือมีการเตรียมพร้อมให้ดีๆ ไม่ว่าในเรื่องธรรมชาติและอาหารทะเลที่ประกอบด้วย กุ้ง หอย ปู ปลา ที่จะรับนักท่องเที่ยวหรือเป็นสินค้าส่งออกก็จะสร้างรายได้เข้าประเทศปีละนับแสนล้านบาท
ด้าน น.ส.ศุภจิตรา ทองฉวี ผจก.แผนกโครงการเพื่อสังคม ตัวแทน ปตท.สผ. กล่าวว่า ตนไม่บริโภคปูไข่เนื่องจากเห็นว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปู ที่จะทำให้ปูทะเลหายไปจากธรรมชาติ และเห็นด้วยกับทุกฝ่ายที่จะร่วมมือกันรณรงค์ชะลอการบริโภคปูไข่ หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งก็ไม่หนักใจในการฟื้นฟู ส่วน ปตท.สผ.พร้อมที่จะสนับสนุนให้ท้องทะเลไทยมีความอุดมสมบูรณ์เป็นคลังอาหารทะเลของชาติต่อไป