พังงา - ฮือฮา! อีก แม่ค้าสาวสวมชุดแนวเซ็กซี่แหวกอก โพสต์เปิดร้านขายผัดไทย ระบุเป็นแม่หม้ายมีลูก 3 คน คิดบวกสู้ชีวิตเพื่อเลี้ยงลูก ตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายแต่ไม่ท้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tiw Rungsie โพสต์ภาพร้านผัดไทยเคาะทะ พร้อมภาพแม่ค้าใส่ชุดแฟชั่นแนวเซ็กซี่ตามกระแสในขณะนี้ โดยระบุที่ตั้งร้านอยู่บริเวณหน้าโรงไฟฟ้าฝ่ายผลิต ถ.เพชรเกษม หมู่ 2 ต.นบปริง อ.เมือง จ.พังงา จำหน่ายเฉพาะวันเสาร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จึงได้เดินทางเข้าสอบถาม ทราบว่า เจ้าของร้านผัดไทยเคาะทะ ชื่อ น.ส.จันทิมา รังษี หรือติ้ว อายุ 34 ปี โดยอาศัยหน้าร้านข้าวแกงป้าต้อย ครัวคนคอน เปิดขายผัดไทย เฉพาะวันเสาร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. หรือจนผัดไทยหมด
จากการสอบถามทราบว่า น.ส.จันทิมา หรือติ้ว เป็นลูกจ้างของร้านข้าวแกงป้าต้อย โดยเปิดขายตั้งแต่วันจันทร์-เสาร์ หลังจากว่างงานในช่วงสถานการณ์โควิด ตั้งแต่ต้นปี 2563 ซึ่ง “ติ้ว” มีภาระต้องเลี้ยงลูก 3 คน อีกทั้งป่วยเป็นโรคมะเร็งรังไข่ในมดลูกทั้ง 2 ข้าง เข้าระยะที่ 3 และตัดปีกมดลูกไปข้างหนึ่ง เหลือมดลูกอีกข้างอยู่ระหว่างการรักษา ก่อนหน้านี้ได้ขายของตามหมู่บ้าน ไม่ว่าผัก ปลา เนื้อหมูสด อาหารตามสั่ง เร่ขายลักษณะใช้จักรยานยนต์แบบรถพุ่มพวง แต่ไม่ประสบความสำเร็จขาดทุนไปต่อไม่ไหว
จนได้ข้อเสนอจากทางร้านข้าวแกงให้ช่วยงานภายในร้านดังกล่าว พอได้ใช้จ่ายค่าเล่าเรียนและเลี้ยงลูกๆ ทั้ง 3 ในค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท ซึ่งเรียกว่าเฉพาะค่าใช้จ่ายของลูกๆ เงินค่าจ้างที่รับมาก็หมดแล้วไม่มีเหลือสำหรับตัวเอง และพ่อแม่ ที่แก่ชราขึ้นทุกวัน
ต่อมา คุยกับป้าต้อยเจ้าของร้านข้าวแกงขอเปิดร้านผัดไทยช่วงวันหยุดของตัวเองในวันเสาร์และวันนักขัตฤกษ์ นำเงินทุนก้อนสุดท้ายซื้ออุปกรณ์ลงมือคิดสูตร ส่วนผสมน้ำซอสเฉพาะของตนเองเพิ่มความอร่อยเพื่อต้องการให้ลูกค้าติดใจ รวมถึงวัตถุที่ใส่ในผัดไทย ไม่ว่าเนื้อหมู กุ้ง หมึก ไข่ ใส่แบบเต็มที่เรียกว่าจัดเต็ม ช่วงแรกๆ ขายวันละ 30-40 จาน มีรายได้ 600-800 บาท ในแต่ละอาทิตย์ เดือนหนึ่งขาย 4 วัน 2,400-3,200 บาท ขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นขาประจำที่ติดใจรสชาติ
ส่วนการแต่งตัวแนวเซ็กซี่ที่โพสต์ออกไปนั้น เนื่องจากตนเองชื่นชอบการแต่งตัวและแฟชั่น หลังจากเลิกรากับแฟนหนุ่มที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่อายุ 17 จึงหันมาดูแลตัวเองและแต่งตัวตามกระแสแฟชั่น ปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่ กระทั่งเห็นชุดแม่ค้าแนวเซ็กซี่จึงลองแต่งแนวแฟชั่นลงเฟซบุ๊กของตนเอง ปรากฏว่าได้การตอบรับดีมาก หลังจากลงสื่อออนไลน์มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว
น.ส.จันทิมา ยังได้กล่าวต่อว่า ตนเองต่อสู้ชีวิตมามาก ร่างกายเป็นโรคมะเร็งยังไม่เครียดเท่ากับความยากลำบากของลูกๆ สำหรับตนเองสิ่งที่ถือว่าความจนยากลำบากสุดๆ คือต้องชงนมข้นหวานให้ลูกๆ แทนนมผง ขณะที่ตนเองไม่ได้กินอะไร คิดเพียงลูกๆ เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนเองทำได้ปรึกษาพ่อ แม่ และลูกๆ แล้ว ครอบครัวยอมรับได้จึงไม่ได้สนใจคนอื่น แต่ลดความเซ็กซี่ลงบ้าง และยืนยันว่าขอขายผัดไทยเฉพาะวันเสาร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น เพราะป้าร้านข้าวแกงให้โอกาสตนในจังหวะชีวิตที่มืดมนจึงต้องการเป็นลูกจ้างร้านข้าวแกงต่อไป และพอใจกับชีวิตในปัจจุบันแม้จะติดขัดด้านการเงินบ้าง
