xs
xsm
sm
md
lg

“เกาะปอดะ” จ.กระบี่ ก็เพราะเธอสวย หนึ่งในไฮไลต์ท่องเที่ยวทางทะเลกระบี่ ใครก็อยากเป็นเจ้าของ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ทำไมหลายคนจึงอยากเป็นเจ้าของ “เกาะปอดะ” จ.กระบี่ ก็เพราะเธอสวย หนึ่งในไฮไลต์ของการเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลกระบี่ สัมผัสเม็ดทรายขาว เนียนนุ่มเท้า หลายคนจึงอยากเป็นเจ้าของ


"เกาะปอดะ" เกาะสวยแห่งทะเลกระบี่ ตั้งอยู่ในท้องที่ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เป็นเกาะที่ยังคงความงดงาม เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของการเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลกระบี่ ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลด้านหน้าหาดอ่าวนาง อยู่ห่างจากฝั่งอ่าวนางประมาณ 8 กิโลเมตร หากยืนอยู่ริมหาดที่อ่าวนาง หรือหาดพนรัตน์ธารา แล้วมองออกไปในทะเลจะเห็นหมู่เกาะเล็กใหญ่กระจุกตัวอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กัน เกาะใหญ่ที่สุดในนั้นคือ “เกาะปอดะ” ส่วนเกาะใกล้ๆ กันได้แก่ เกาะทับ เกาะหม้อ เกาะไก่ ซึ่งเป็น 4 เกาะไฮไลต์สำหรับการท่องทะเลกระบี่


เกาะปอดะ มีเนื้อที่กว่า 100 ไร่ เป็นพื้นราบประมาณ 70 ไร่ มีชายหาดล้อมรอบ 1 ใน 3 ของเกาะ ยกเว้นทางด้านทิศตะวันตกซึ่งเป็นด้านที่รับคลื่นลม เป็นภูเขาหน้าผาหินสูงชัน ด้านหน้าเกาะมีหาดทรายที่ขาวละเอียด น้ำทะเลใสถึงแม้จะอยู่ไม่ไกลจากฝั่ง นักท่องเที่ยวนิยมแวะขึ้นเกาะเพื่อไปพักผ่อนเดินเล่นชายหาดและเล่นน้ำ ซึ่งในช่วงนี้กำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากคลื่นลมสงบ น้ำทะเลสวยใส


สำหรับเกาะปอดะ เป็นเกาะที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ถูกจัดไว้ในโปรแกรมเที่ยว 4 เกาะกระบี่ (เกาะปอดะ เกาะทับ เกาะหม้อ เกาะไก่) เหมาะสำหรับการเดินเล่นบนหาด เป็นแนวหาดทรายที่ขาวเนียน เนื้อทรายละเอียด เดินแน่นนุ่มเท้า เมื่อมองออกไปเห็นน้ำทะเลสวยใส โดยเฉพาะที่ด้านหน้าหาด เมื่อมองออกไปจะเห็นแนวหาดทราย ท้องทะเล และภูเขาหินรูปใบเรือตั้งตระหง่าน ถือเป็นภาพจำอันโดดเด่นของเกาะปอดะแห่งนี้


นอกจากนี้ ยังสามารถลงเล่นน้ำ และพักผ่อนเพราะเงียบสงบคนไม่พลุกพล่าน แต่ไม่เหมาะจะมาดำน้ำดูปะการัง เพราะปะการังแถวนี้ไม่ค่อยมี และที่มีก็ไม่ค่อยสวย ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะไปดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นแถวทะเลแหวก ซึ่งอยู่ใกล้กัน


ด้วยความสวยงามโดดเด่นของเกาะปอดะ เกาะแห่งนี้จึงถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของเส้นทางเที่ยวทะเลกระบี่ ทัวร์ 4 เกาะ และสำหรับเกาะปอดะหลังต่อสู้เป็นคดีความยืดเยื้อมายาวนานกว่า 30 ปี ระหว่างเอกชนกับภาครัฐ วันนี้เกาะปอดะได้กลับอยู่ในความดูแลของอุทยานฯ เป็นพื้นที่สาธารณะภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี


สำหรับการเดินทางไปเที่ยวเกาะปอดะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที โดยสามารถซื้อแพกเกจทัวร์ 4 เกาะ แบบซันเดย์ทัวร์ ได้ที่สหกรณ์เรือหางยาว ริมหาดอ่าวนาง หรือเคาน์เตอร์ทัวร์ มีทั้งการให้บริการการเดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์ และเช่าเหมาลำเรือหัวโทงผู้โดยสาร 6 คน ราคาโดยเฉลี่ยประมาณ 2,200 บาท นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางได้ด้วยการเช่าเหมาเรือสปีดโบ๊ต ราคาจะสูงขึ้นไปอีก ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 09-4583-5143 สหกรณ์เรือหางยาวอ่าวนาง


อย่างไรก็ตาม เกาะปอดะ เป็นอีกหนึ่งเกาะที่มีกรณีพิพาทเรื่องที่ดินระหว่างเอกชนและอุทยานฯ ซึ่งมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกันมาอย่างยาวนาน โดยก่อนที่เกาะปอดะ จะกลับไปอยู่ในความดูแลของอุทยานฯ เมื่อปี 2528 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้แจ้งความดำเนินคดีข้อกล่าวหา นายชวน ภูเก้าล้วน เจ้าของเกาะข้อหาบุกรุกครอบครองพื้นที่อุทยานฯ โดยทางนายชวน แจ้งว่า มีกรรมสิทธิ์ที่ดิน น.ส.3 ก.จำนวน 4 ฉบับ เนื้อที่กว่า 50 ไร่


เมื่อ 30 ธันวาคม ปี 2554 ศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. ทั้ง 4 ฉบับ และออกหมายบังคับคดีให้จำเลย พร้อมบริวารออกจากพื้นที่ โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2556 ศาลจังหวัดกระบี่ ได้ออกหมายบังคับคดีให้จำเลยพร้อมบริวาร รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่


เดือนธันวาคม ปี 2556 นายชวน ได้นำเอกสาร ส.ค.1 เลขที่ 2 ยื่นขอความเป็นธรรมต่อศาล ซึ่งศาลกระบี่ พิจารณาแล้วให้ปฏิบัติตามศาลฎีกา เจ้าหน้าที่จึงเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ จากนั้น นายชวน ภูเก้าล้วน ได้ยื่นเอกสาร ส.ค.1 เลขที่ 1 เนื้อที่กว่า 70 ไร่ เพื่อยืนยันว่าได้มีการทำประโยชน์บนเกาะปอดะมาก่อนปี พ.ศ.2495 เป็นหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินบนเกาะปอดะต่อศาลอีกครั้ง ทางด้านอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ยื่นคัดค้านการออกเอกสารสิทธิครอบครอง และได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกเขตอุทยานฯ


ศาลจังหวัดกระบี่ มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2560 ให้ฝ่าย นายชวน ภูเก้าล้วน เป็นผู้ชนะคดี และให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ แต่เมื่อ 16 ส.ค.2561 ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับให้กรมอุทยานฯ เป็นฝ่ายชนะคดี สั่งจำคุกนายชวน ภูเก้าล้วน เป็นเวลา 3 ปี 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญา ซึ่งทนายได้ยื่นขอประกันตัวออกมารอสู้คดี


ต่อมา วันที่ 10 ก.ย.62 ศาลฎีกา แผนกสิ่งแวดล้อม อ่านคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยมีความความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.อุทยานฯ ลงโทษจำคุก 3 ปี 6 เดือน แต่ศาลพิเคราะห์เห็นว่า เป็นความผิดไม่ได้รุนแรง จึงแก้คำพิพากษาให้ จำคุก 3 ปี 6 เดือน แต่โทษจำให้รอลงอาญา 2 ปี ให้จำเลยบำเพ็ญประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมเป็นเวลา 30 ชั่วโมง ชำระค่าปรับเป็นเงิน 80,000 บาท พร้อมให้จำเลยและบริวารออกจากพื้นที่ ปิดคดีมหากาพย์ ครั้งที่ 1 ที่สู้กันมานานกว่า 30 ปี


หลังจากที่คดีประวัติศาสตร์การแย่งชิงเกาะปอดะ เริ่มถูกลืมเลือนได้มีผู้ที่อ้างสิทธิครอบครองเกาะปอดะ โผล่มาอีกราย คือ นายจรัส วะจิดี โดยอ้างสิทธิ และเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชจำเลยที่ 1 นายสัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จำเลยที่ 2 นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จำเลยที่ 3 ต่อศาลจังหวัดกระบี่ ในข้อหาละเมิดต่อทรัพย์สิน คดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ.745/61 หมายเลขคดีแดงที่ พ.623/64 และล่าสุดในส่วนของศาลชั้นได้พิพากษาเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. โดยพิพากษายกฟ้อง








กำลังโหลดความคิดเห็น