นครศรีธรรมราช - จ่ออ่วม! น้ำป่าเริ่มทยอยหลากเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช ผ่านคลองท่าดี ทะลักข้ามสันฝายเกือบ 3 เมตร เทศบาลนครฯ ยก “ธงแดง” เตือนภัยเร่งระบายน้ำ ชลประทานเดินเครื่องเจ็ตผลักดันน้ำเต็มกำลัง แต่ยังต้องระวังโจรลักตัดสายไฟ
วันนี้ (2 ธ.ค.) สภาพน้ำป่าปริมาณมหาศาลที่กำลังหลากข้ามสันฝายท่าดี ที่ตั้งอยู่ในลำน้ำท่าดี รอยต่อระหว่าง ต.กำแพงเซา และ ต.ไชยมนตรี อ.เมืองนครศรีธรรมราช ระดับน้ำสูงข้ามสันฝายเกือบ 3 เมตร ซึ่งนั่นหมายถึงปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลกำลังหลากเข้าสู่พื้นที่ท้ายน้ำในเขตตัวเมืองนครศรีธรรมราช ก่อนจะไหลลงสู่อ่าวไทยในพื้นที่ปากอ่าวปากนคร ต.ปากนคร ซึ่งขณะนี้ได้เกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูงเป็นระยะ ทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างล่าช้า และที่สำคัญปริมาณน้ำเหล่านี้จะค่อยๆ ทยอยหลากเข้าสู่เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ผ่านลำคลอง 5 สายหลัก คือ คลองราเมศวร์ คลองนครน้อย คลองสวนหลวง คลองป่าเหล้า และคลองคูพาย โดยพื้นที่ลุ่มต่ำและใกล้เคียงกับลำคลองทั้ง 5 สาย จะถูกนำท่วมในช่วงค่ำของวันนี้ ขณะนี้หลายพื้นที่น้ำกำลังเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายเลิศชาย พวงมณี ชาวบ้านริมน้ำท่าดี ต.กำแพงเซา อ.เมืองนครศรีธรรมราช ระบุว่า ปริมาณน้ำเพิ่มสูงมากขึ้นมาตั้งแต่เวลา 08.00 น.ของวันนี้ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่โชคดีที่ปริมาณฝนดูเหมือนว่าจะลดลง โดยเฉพาะพื้นที่ต้นน้ำ จึงน่าจะทำให้สถานการณ์พอที่จะบรรเทาลงไปได้บ้าง ส่วนน้ำที่กำลังหลากขณะนี้จะไหลเข้าสู่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช แต่เมื่อผ่านในช่วงที่ลำคลองแคบ และถูกทำกำแพงกันนั้น น้ำจะล้นและแหกออกไปสร้างความเสียหายให้พื้นที่เกษตรกรรม และพื้นที่ชุมชน ปริมาณน้ำขณะนี้ท้ายน้ำในเขตเมืองนครศรีธรรมราช ต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์อุทกภัย และเก็บสิ่งของได้เลย
ส่วนสภาพชุมชนเกษตรกรรมสวนผลไม้ และสวนยางพาราในพื้นที่รอยต่อระหว่าง ต.ไชยมนตรี และ ต.กำแพงเซา อ.เมืองนครศรีธรรมราช น้ำฝนและน้ำป่าหลากเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่เกษตรกรรม หลายครอบครัวต้องมาใช้วิธีการรื้อวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำเพื่อเร่งการระบายน้ำออกจากพื้นที่ ขณะที่ฝนยังคงตกลงมาเป็นระยะ ระดับน้ำในพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณของฝน
ส่วนในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ขณะนี้น้ำกำลังเริ่มหลากเข้าสู่พื้นที่ สำนักชลประทานที่ 15 ได้เร่งเดินเครื่องเจ็ตไฟฟ้าเพื่อผลักดันระบายน้ำออกจากเขตเมืองให้ได้มากที่สุด แต่ยังเป็นไปได้อย่างล่าช้า เนื่องจากภาวะน้ำทะเลหนุนสูง ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังต้องระวังการลักตัดสายไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งเป็นชนิดราคาแพงของเครื่องเจ็ตไฟฟ้าผลักดันน้ำ ซึ่งคนร้ายมักลอบก่อเหตุซ้ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้เสียหายไปนับล้านบาทแล้ว แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้
ขณะเดียวกัน ในพื้นเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้ถูกยกระดับการแจ้งเตือนอุทกภัยด้วยการยก “ธงแดง” ในพื้นที่เสี่ยง เป็นสัญลักษณ์เตือนภัยให้ประชาชนอพยพทรัพย์สิน และระวังอันตรายจากอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในอีก 4-8 ชั่วโมง ซึ่งจะเป็นการยกระดับแจ้งเตือนขั้นสูงสุด
