นักท่องเที่ยวบ่นอุบ ท่าเรือปากเมง ขยะเกลื่อนไร้การจัดการ หน่วยงานในพื้นที่เต้นเตรียมตั้งกก.ดูแล

ตรัง - สุญญากาศท่าเรือปากเมง หลัง “พล.อ.ประยุทธ์” เปิดทั้งที่ยังไม่ส่งมอบ คาดส่งมอบปีหน้า ไร้การจัดการ ขยะ-ห้องน้ำปิด นักท่องเที่ยวบ่น อท.เจ้าไหมรุดแก้เฉพาะหน้า ประสานเจ้าท่าขอเปิดใช้ก่อนจัด จนท.ดูแล เผยเตรียมตั้ง กก.บริหารท่าเรือ-จัดเก็บรายได้ วอนนักท่องเที่ยวช่วยรักษาความสะอาด เอกชนเสนอทำถนนคนเดินหน้าท่าส่งเสริมท่องเที่ยว 

วันนี้ (2 ธ.ค.) หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำพิธีเปิดท่าเทียบเรือปากเมง ประตูสู่อันดามัน ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง เมื่อวันที่ 16 พ.ย.นั้น ทำให้มีประชาชนทั้งจาก จ.ตรัง และใกล้เคียงเดินทางมาท่องเที่ยวที่ท่าเรือปากเมง รวมทั้งทะเลตรังเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะวันหยุด วันหยุดนักขัตฤกษ์ แต่ด้วยท่าเรือปากเมง โดยกรมเจ้าท่า ที่ก่อสร้างเสร็จและมีพิธีเปิดไปแล้วนั้นยังไม่มีการส่งมอบตามระเบียบราชการ จึงทำให้ท่าเรือปากเมงอยู่ในภาวะสุญญากาศขาดการบริหารจัดการ ปัจจุบันเปิดให้ใช้งานเพียงสะพานท่าเรือและหน้าท่าเพื่อให้ทักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นลงเรือเท่านั้น ขณะที่สาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ยังไม่เปิดใช้งาน โดยเฉพาะตัวอาคารพักผู้โดยสาร มีการปิดประตูห้องน้ำ ไม่มีที่นั่งพัก ตลอดจนถังขยะไว้บริการ จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากผู้มาเยือนและโพสต์เรื่องดังกล่าวลงโซเชียลเป็นจำนวนมาก โดยเบื้องต้น ผู้ประกอบการท่องเที่ยวบริเวณหน้าท่าเรือได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าใช้ห้องน้ำของเอกชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนกันไปก่อน 

นายประทีป โจ้งทอง อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง และผู้ประกอบบริษัทนำเที่ยวลิบงการท่องเที่ยว กล่าวว่า ท่าเรือปากเมงขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้ส่งมอบพื้นที่ คาดว่าการส่งมอบน่าจะเรียบร้อยภายในเดือน ม.ค.2565 ซึ่งขั้นตอนการส่งมอบทางกรมเจ้าท่าจะส่งมอบให้กรมธนารักษ์ และกรมธนารักษ์จะส่งมอบให้กรมอุทยานฯ แต่ด้วยหลังจากพิธีเปิดได้มีประชาชนเดินทางมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก วันละหลายร้อยคน และในวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาวันละกว่า 1,000 คน ผู้ประกอบการ สมาคมท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้ปรึกษาหารือกัน เพราะท่าเรือปากเมงไม่ได้เป็นแค่ท่าเรือที่มีหน้าที่จอดเรือหรือขึ้นลงเรือ แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมความสวยงาม มาถ่ายรูป เช็กอิน ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการดูแลบำรุงรักษา และบริหารจัดการ ป้องกันไม่ให้ทรุดโทรมหรือพังก่อนเวลาอันควร โดยเฉพาะส่วนของห้องน้ำที่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่มาดูแล 


นายประทีป กล่าวอีกว่า จากการประชุมร่วมกันของสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจ.ตรัง สมาคมการท่องเที่ยวและโรงแรม จ.ตรัง สมาคมท่องเที่ยวปากเมง ผู้ประกอบการ และอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้ข้อสรุปว่า ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมา โดยมีอุทยานแห่งชาติเป็นประธาน เพื่อดูแลบริหารท่าเรือ เช่น การจัดระบบเข้าออก ดูแลท่าเรือ ดูแลการจอดเรือ ดูแลห้องน้ำ การรักษาความสะอาด รวมทั้งในช่วงเวลากลางคืนจะจัดให้มีถนนคนเดิน แต่ขณะนี้ยังทำอะไรไม่ได้เนื่องจากท่าเรือยังไม่มีการส่งมอบ หากมีการเปิดไฟแสงสีต่างๆ ย่อมเกิดค่าใช้จ่ายขึ้น ค่าไฟไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนชำระ สรุปเนื่องจากการจัดหารายได้ยังไม่เกิด แต่ได้เสนอว่า ต่อไปจะมีการจัดหารายได้จากการจัดถนนคนเดิน เพื่อนำรายได้มาจ้างพนักงานมาดูแลห้องน้ำ ดูแลความสะอาด จัดการขยะ ที่จอดรถ

ทั้งนี้ ผลการประชุมร่วมกันระหว่างอุทยานฯ หาดเจ้าไหม กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว นายกสมาคมการท่องเที่ยวและโรงแรมจังหวัดตรัง นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวหาดปากเมง ผู้ประกอบการด้านที่พัก ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว ซึ่งมติที่ประชุมในเบื้องต้น ดังนี้ 1.การจอดเรือห้ามมิให้เรือจอดแช่บริเวณโป๊ะ จอดรับผู้โดยสารได้อย่างเดียว 2.ในเวลา 08.30 น. การขนของของเรือต้องให้แล้วเสร็จ ใช้รถสามล้อพ่วงได้ ถ้าหากหลังเวลา 08.30 น. อนุญาตให้ขนของด้วยรถเข็นเท่านั้น 3.ห้ามสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด 4.กำหนดจุดรับประทานอาหารบริเวณศาลาพักคอย ห้ามมิให้นำอาหารไปรับประทานอาหารบริเวณปลายท่าเรือ 5.กำหนดปิดไฟฟ้าบริเวณท่าเรือปากเมง เวลา 22.00 น. 6.กำหนดการเดินรถบริเวณหน้าท่าเรือ แบบเดินรถทางเดียว 7.การจัดตั้งคณะทำงานบริหารจัดการท่าเรือปากเมง 8.ห้ามมิให้มีการตกปลาบริเวณท่าเรือปากเมง 9.กำหนดจุดติดตั้งถังขยะบริเวณศาลาพักคอย และ 10.การติดตั้งจุดคัดกรองโควิด-19 บริเวณด้านหน้าท่าเรือปากเมง

ด้านนายณรงค์ คงเอียด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม กล่าวว่า หลังจากนี้ กรมเจ้าท่าดำเนินการแล้วเสร็จส่งมอบงานแล้วเสร็จ จะส่งมอบให้อุทยานแห่งชาติในการที่จะมาดูแลการบริหารจัดการท่าเรือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมและพื้นที่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งศักยภาพของท่าเรือปากเมงรองรับเรือที่มาจากต่างจังหวัด เช่น สตูล กระบี่ พังงา เข้ามาเทียบท่าได้ และการบริหารจัดการทางอุทยานฯ ถือว่าเป็นหน้าที่ และในเบื้องต้นทางอุทยานฯ ได้พูดคุยกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว กรมเจ้าท่า ภาคธุรกิจเอกชนต่างๆ โดยได้ตกลงช่วยกันที่จะบริหารท่าเรือแห่งนี้ให้มีความสวยงามปลอดภัยให้มีความคงอยู่อย่างยั่งยืน


"สิ่งสำคัญที่สุดนักท่องเที่ยวเข้ามาชื่นชมความสวยงามของท่าเรือ เรื่องความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ ต้องขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวที่จะช่วยกันดูแลความสะอาดร่วมกัน ในเบื้องต้นเราได้พูดคุยกับทางผู้ประกอบการเรือไปบ้างแล้วในเรื่องการจอดเรือ เทียบท่าเรือ การขนส่งอุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวมีมาตรการที่ชัดเจน เช่น ไม่จอดเทียบท่าเรือค้างคืนหรือทิ้งไว้ จะต้องมีการเก็บอุปกรณ์ การขนส่งน้ำมัน อาหารต่างๆ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อที่จะไม่ให้มีการสับสนวุ่นวาย ในส่วนของขยะผู้ประกอบการจะต้องรับผิดชอบต่อลูกทัวร์ของตนเองที่มาท่องเที่ยว ขยะที่เกิดขึ้นจากลูกทัวร์ผู้ประกอบการจะต้องนำไปทิ้งในที่เหมาะสม ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ผู้ประกอบการต้องเข้าใจ" หัวหน้าอุทยานฯ หาดเจ้าไหม กล่าว

นายณรงค์ กล่าวว่า สำหรับในเรื่องของเปิดใช้ห้องน้ำนั้น ต้องแจ้งว่า ขณะนี้การก่อสร้าง กรมเจ้าท่ายังไม่ได้มีการส่งมอบที่ชัดเจน แต่เพื่อเป็นการแก้ปัญหาแก่นักท่องเที่ยว อุทยานฯ ได้ประสานไปยังกรมเจ้าท่าขอความอนุเคราะห์ผ่อนผันให้ได้ใช้ห้องน้ำก่อน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว และต้องขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวช่วยดูแลเรื่องความสะอาดและใช้ด้วยความรัก ไม่ให้มีการถูกทำลายหรือเกิดความเสียหาย และในส่วนของการบริหารจัดการท่าเรือ ส่วนของรายได้ที่เข้ามา หากมีการชำรุดเสียหายเล็กน้อยอุทยานแห่งชาติจะมาดูแลซ่อมแซมปรับปรุงให้ และหากชำรุดทรุดโทรมอย่างหนักจะประสานไปทางไปจังหวัดเพื่อมาช่วยซ่อมแซม

นายณรงค์ กล่าวด้วยว่า อุทยานฯ ได้จัดทำโครงการขึ้นมาเพื่อการพัฒนาพื้นที่บริเวณท่าเรือปากเมง ซึ่งได้เสนอโครงการไปยังจังหวัดตรังที่จะพัฒนาบริเวณท่าเรือ กำหนดเป็นวาระชุมชน ตลอดจนการปรับปรุงถนนจากสามแยกปากเมงไปยังชุมชนบ้านปากเมง ระยะทาง 800 เมตร เพื่อที่จะพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย