ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวประมงเก้าเส้ง จ.สงขลา พลิกวิกฤตเป็นโอกาสจากสภาพคลื่นลมแรง ต้องหยุดออกเรือยาว 1-2 เดือน หันมานำอวนลากชายฝั่งจับปลากระบอกบริเวณชายหาดสมิหลา ขายได้ กก.ละ 350 บาท สร้างรายได้ทดแทนระหว่างหยุดออกเรือ
วันนี้ (24 พ.ย.) ที่ จ.สงขลา ในช่วงนี้เริ่มมีฝนตกและคลื่นลมแรงอีกระลอก โดยทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้ประกาศฉบับที่ 6 ให้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรงไปจนถึงวันที่ 26 พ.ย.นี้ และผลพวงจากคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยที่มีกำลังแรง ทำให้ชาวเรือประมงพื้นบ้านเลียบชายฝั่งของ จ.สงขลา ทั้ง 6 อำเภอต้องหยุดออกเรือ ไล่ตั้งแต่ อ.ระโนด สทิงพระ สิงหนคร เมืองสงขลา จะนะ และ อ.เทพา โดยอาจจะต้องหยุดยาวไปอีก 1-2 เดือน เพราะเป็นช่วงฤดูมรสุมคลื่นแรง ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านในชุมชนเก้าเส้ง อ.เมืองสงขลา ต่างพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส หันมานำอวนลากจับปลากระบอก ที่บริเวณเวิ้งอ่าวชายหาดสมิหลา ซึ่งมีปลากระบอกชุกชุมตลอดทั้งปี และยังมีรสชาติอร่อยด้วย
โดยเฉพาะในช่วงนี้ปลากระบอกชุกชุมมาก ว่ายน้ำเข้ามาตามเกลียวคลื่นที่ซัดเข้าสู่ฝั่ง ทำให้ตลอดแนวชายหาดสมิหลาเต็มไปด้วยชาวประมงพื้นบ้าน ที่ต่างพากันนำอวนออกมาจับปลาสร้างรายได้ในช่วงที่ต้องหยุดเรือ และปลากระบอกยังราคาดีกิโลกรัมละ 350 บาท และมีนักท่องเที่ยวมาซื้อกันสดๆ ริมชายหาด เรียกว่าจับได้ก็ขายทันที
นายสมคิด มะหะพันธ์ อายุ 41 ปี หนึ่งในชาวประมงพื้นบ้านชุมชนบ้านเก้าเส้ง กล่าวว่า แต่ละวันสามารถจับปลากระบอกขายได้วันละประมาณ 600-700 บาท บางคนก็จะได้ถึง 3-4 กิโลกรัมต่อวัน สร้างรายได้หลักพัน ซึ่งเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัวทดแทนช่วงที่ต้องหยุดออกเรือ