ยะลา - สาววัย 37 ชี้แจงกรณีโซเชียลแชร์ข่าว อ้างตำรวจพลร่มฉลองชัย อ.บันนังสตา จ.ยะลา ดักจี้สาวอิสลาม-ขอเงิน เผยผู้ก่อเหตุรู้จักกัน เรียกให้จอดหน้าฐานบุญลือ ทีแรกบอกจะฝากของ แต่ถือวิสาสะขึ้นมาบนรถขอให้โอนเงินเข้าบัญชี แต่มีคนผ่านมา จึงรีบลงจากรถวิ่งหนีไป ล่าสุดผู้บังคับบัญชานำตัวมาขอโทษแล้ว จะไม่แจ้งความเอาผิด แต่ให้นำตัวออกนอกพื้นที่โดยเร็วที่สุดเพราะยังหวาดระแวง
วานนี้ (21 พ.ย.) ร.ต.อ.เจริญ อุปวรรณะ รอง หน.ทก.รพศ., ร.ต.อ.ชรินทร์ ภู่จิตรทอง รอง หน.ชป.2 (ฐานบุญลือ) พร้อมกำลังพลรวม 4 นาย และนายสุชาติ ก้งเส็ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านฉลองชัย และนางหลี่ พรหมทอง (ราษฎรอาวุโส) ร่วมพูดคุยทำความเข้าใจกับสาวใหญ่วัย 37 ปี (ผู้เสียหาย) ซึ่งเป็นพนักงานลูกจ้างงานทะเบียนบ้านฉลองชัย ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา พร้อมกับสามี ในประเด็นที่สื่อสังคมออนไลน์แชร์ข่าวระบุว่ากำลังพลและหน่วย ทก.รพศ. (ตำรวจพลร่ม) ดักจี้สาวอิสลาม ทำให้พี่น้องประชาชนหวาดกลัวนั้น จากการเข้าพบหาสาเหตุทำความเข้าใจทั้งสองฝ่าย ลำดับเหตุการณ์จากผู้เสียหายดังนี้
เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้เสียหายขับรถยนต์เก๋งส่วนตัว จากบ้านฉลองชัยไปทำงานที่ อ.บันนังสตา ตามปกติผ่านฐานบุญลือ ระยะห่างขาออกประมาณ 250 เมตร ผู้ก่อเหตุคือ ส.ต.ต.โชคอนันต์ เหง้าละคร อายุ 22 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.1 บก.สอ. (กพ.ชป.2) ฐานบุญลือ ซึ่งคุ้นเคยกันจากภารกิจของหน่วยกับชุมชน และการแข่งขันกีฬาในยุทธการที่ผ่านมา ได้ให้สัญญาณจอดรถ เมื่อผู้เสียหายลดกระจกลง ผู้ก่อเหตุได้ถามว่า “พี่ผมขอฝากส่งพัสดุที่บันนังสตาได้ไหมครับ” ผู้เสียหายดูเวลาเห็นว่าสายมากแล้ว จึงตอบปฏิเสธไปว่า “สายมากแล้วน้อง หาฝากทางอื่นดีกว่าไหม” ห้วงเวลานั้นผู้ก่อเหตุถือวิสาสะเปิดประตูรถเข้าไปนั่งเบาะด้านข้าง และพูดว่า “พี่ขอโทษครับ ผมต้องการใช้เงิน 10,000 บาท พี่โอนเงินมาในโทรศัพท์เลขบัญชีผมตอนนี้” ขณะเดียวกันได้มีรถยนต์เก๋งสีขาว ผู้เสียหายจำได้ว่าเป็นรถของครูที่สอนที่โรงเรียนบ้านสันติ 1 ขับผ่านมาพอดี จึงเปิดประตูรถโบกมือ พร้อมตะโกนขอความช่วยเหลือ ผู้ก่อเหตุตกใจรีบออกจากรถ และวิ่งหนีไป หลังจากนั้นผู้เสียหายจึงเดินทางกลับไปที่บ้าน เล่าเหตุการณ์ให้สามีฟัง และแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ได้รับทราบ
ต่อจากนั้นผู้เสียหายและสามีได้กลับมาแจ้งการเกิดเหตุที่ ชป.2 (ฐานบุญลือ) โดยขณะนั้น ร.ต.อ.ชรินทร์ ภู่จิตรทอง รอง หน.รรท.หน.ชป.2 ทราบข้อมูลจากผู้ก่อเหตุเบื้องต้น และได้นำตัว ส.ต.ต.โชคอนันต์ เหง้าละคร มาขอโทษ แต่ทางผู้เสียหายและสามีขอให้ไปทำการตกลงพูดคุยที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ผลการเจรจาคือผู้เสียหายจะไม่แจ้งความเอาผิดใดๆ ต่อผู้ก่อเหตุ แต่ยังมีความหวาดระแวงต่อการกระทำ จึงขอให้ ชป.2 (ตำรวจพลร่ม) นำตัวผู้ก่อเหตุออกนอกพื้นที่โดยเร็วที่สุด
ขณะเดียวกันจากกรณีดังกล่าวนี้ ยังได้มีการนำข้อมูลที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริงไปเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยระบุว่ามีการประทุษร้าย กระทำการอนาจาร และลากผู้หญิงที่เป็นผู้เสียหายไปข่มขืน ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด จึงเป็นการสร้างความเสื่อมเสีย และทำให้ผู้ที่รับข่าวสารเกิดความเข้าใจผิด หรืออาจจะเกิดปัญหาต่อมวลชนในพื้นที่ ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานใดที่จะดำเนินการต่อสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการนำข้อมูลที่บิดเบือนจากความจริงไปสร้างให้เกิดความเข้าใจผิด ระหว่างประชาชนกับหน่วยต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว