ตรัง - ชวนเที่ยวเส้นทางสวรรค์บนดิน “บ่อหินฟาร์มสเตย์” ทั้งชมบ่อน้ำพุเค็มร้อน ให้อาหารน้องพะยูนที่อ่าวบุญคง ลงเล่นน้ำที่เกาะหลอหลอ เซลฟี่ที่หาดเก็บตะวัน และทานอาหารทะเลสดๆ จากท้องถิ่น
“ตรัง” เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ทั้งทะเล ภูเขา ป่าไม้ น้ำตก และวิถีของผู้คน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ยังคงเสน่ห์ติดตาของแขกผู้มาเยือน และไม่พลาดที่จะมาสัมผัส คงหนีไม่พ้นเรื่องของท้องทะเล กับกิจกรรมล่องเรือ-ดำน้ำ ย่ำเท้าบนหาดทราย และลิ้มรสอาหารท้องถิ่น เหมือนอย่างที่เรียกกันว่า “สวรรค์บนดิน”
โดยเฉพาะที่แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร “บ่อหินฟาร์มสเตย์” ตำบลบ่อหิน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งมี นายบรรจง นฤพรเมธี ประธานวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงปลากระชังบ้านพรุจูด ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้ง
ทั้งนี้ ทริปการท่องเที่ยวของบ่อหินฟาร์มสเตย์ จะเริ่มต้นด้วยการนั่งเรือหัวโทงไปชมภูเขา ภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ และหินงอกหินย้อย ที่เวิ้งถ้ำ และร่วมกันสร้างแหล่งอาหารให้น้องพะยูน ที่อ่าวบุญคง ที่มีเนื้อที่กว้างเกือบ 500 ไร่ พร้อมชมวิถีชีวิตยามเช้าของชาวประมงที่ออกเรือหาปลา ด้วยการนำลอบปู และอวนปลาไปดักจับสัตว์น้ำมาจำหน่ายและนำมาเป็นอาหารหาเลี้ยงครอบครัว หลังจากนั้น นักท่องเที่ยวจะล่องเรือไปที่เกาะหลอหลอ เพื่อลงเล่นน้ำที่สวยใส และหาดทรายที่ขาวละเอียด
จากนั้นจะล่องเรือไปตามลำคลองสิเกา ผ่านผืนป่าชายเลน เพื่อไปชม บ่อน้ำพุเค็มร้อนกลางทะเล เพื่อทำสปาโคลนร้อน อีกหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่แสนมหัศจรรย์ โดยจะมีน้ำพุเล็กๆ ที่มีน้ำใสราวกระจกผุดขึ้นมากลางดินโคลนสีดำ ซึ่งเกิดจากรอยแยกของเปลือกโลก โดยมีอุณหภูมิที่ 47 องศา
ก่อนกลับมาทานอาหารทะเลจากครัวหน้าบ้าน ทั้งปลากะพง ปลาเก๋า รวมทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ที่ชาวประมงท้องถิ่นหามาขายและเน้นตรงที่ความสดมากๆ หรือเรียกกันตามภาษาปักษ์ใต้ว่า “สดดิกดิก” และถูกปรุงโดยเชฟชุมชน ด้วยรสชาติที่อร่อยมากๆ หรือต้องอุทานเป็นภาษาใต้ว่า “หรอยจังฮู้”
เช่น เมนู “ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว” โดยการนำปลาเก๋าสดๆ ที่เลี้ยงในกระชังหน้าบ้านมานึ่งกับซอสซีอิ๊วตามสูตร นอกจากนั้น ยังมีเมนู “แกงส้มปลากะพงใส่ต้นบอน” หรือที่ภาษาปักษ์ใต้เรียกว่า ต้นอ้อดิบ ขณะที่ภาษากลางเรียกว่า ต้นคูน โดยการนำปลากะพงสดๆ ที่เลี้ยงในกระชังหน้าบ้านมาปรุงด้วยเครื่องแกงตำมือ คู่กับพืชผักสมุนไพรสดใหม่ ทานคู่กับเมนู “ปลาเค็มกางมุ้ง” ปลาสีเสียด หรือปลาสละ จากกลุ่มแปรรูปอาหารทะเล ที่นำมาทอดให้หอมๆ กรอบๆ พร้อมเสิร์ฟให้นักท่องเที่ยว รวมไปถึงเมนูจากพืชผักในท้องถิ่นที่เน้นปรุงรสแบบพื้นบ้าน แต่ปรับรสชาติให้ถูกลิ้นนักท่องเที่ยว
หลังจากอิ่มท้องแล้ว จะพานักท่องเที่ยวล่องเรือยามเย็นไปยังหาดเก็บตะวัน เพื่อชมดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า ระหว่างปลายแหลมเกาะลันตา ในช่วงเวลาพลบค่ำ โดยหาดเก็บตะวันแห่งนี้จะมีลักษณะเป็นสันทราย ที่เกิดขึ้นในช่วงน้ำทะเลลดต่ำสุดของแต่ละวัน กลายเป็นหาดทรายที่ขาวเนียน เนื้อละเอียด และมีปูลมวิ่งเล่น เหมาะต่อการนั่งยลธรรมชาติ และเซลฟี่เป็นอย่างยิ่ง ถือเป็นการปิดท้ายท่องเที่ยวทริปนี้ในเวลา 1 วัน
นายบรรจง นฤพรเมธี ประธานวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงปลากระชังบ้านพรุจูด บอกว่า จะแบ่งทริปออกเป็น 2 ส่วน คือ วันเดย์ทริป ด้วยลงเรือไปท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ทั้งบ่อน้ำพุเค็มร้อน อ่าวบุญคง เกาะหลอหลอ หาดเก็บตะวัน และทานอาหารทะเลสดๆ ส่วนอีกทริปคือ มาพักค้างคืนที่บ่อหินฟาร์มสเตย์ ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 40 คน มีห้องพักทั้งหมด 12 ห้อง สำหรับทริปท่องเที่ยวมีราคาเรือเริ่มต้นที่ 1,500 บาทต่อลำ ส่วนห้องพักมีราคาเริ่มต้นที่คืน 400 บาท
