xs
xsm
sm
md
lg

แถลงร่วม 3 ฝ่ายสรุปผลงานปฏิบัติงานแก้ไขปัญหา-พัฒนา จชต.เดือนตุลาคม 2564

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปัตตานี - แถลงร่วม 3 ฝ่ายสรุปผลงานปฏิบัติงานแก้ไขปัญหา และพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำเดือนตุลาคม 2564

วันนี้ (5 พ.ย.) ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมด้วย พ.ต.อ.อนุพงษ์ ทัศนา ผู้ช่วยโฆษกกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมแถลงข่าวชี้แจงการปฏิบัติงานในห้วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ในห้วงเดือนตุลาคม 2564 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ปฏิบัติภารกิจด้านการควบคุมพื้นที่ และบังคับใช้กฎหมาย จากกรณีเจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 3 ฝ่ายเข้าบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่หลบซ่อนอยู่ในพื้นที่บ้านฮูแตยือลอ ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส โดยได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน จนถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2564

ผลการปฏิบัติเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 6 ราย ยึดอาวุธปืน 6 กระบอก และอุปกรณ์ประกอบระเบิดอีกเป็นจำนวนมาก การดำเนินการทุกขั้นตอนของการบังคับใช้กฎหมาย พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กำชับในการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก ดำเนินการภายใต้หลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย รวมทั้งประสานขอความร่วมมือจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำศาสนาในพื้นที่เข้ามาร่วมเจรจาเกลี้ยกล่อมเพื่อให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงออกมามอบตัว ซึ่งไม่ได้รับความร่วมมือแต่อย่างใด กลับใช้อาวุธต่อสู้ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตถึง 2 นาย และผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 6 ราย

ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนกรุณาอย่าได้ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิด ทั้งการให้ที่พักพิง ที่หลบซ่อน หรือจัดหาเสบียง เพราะจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในปีงบประมาณ 2564 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ใช้มาตรการทางกฎหมายจับกุมผู้ต้องหา 4,334 คน ยึดของกลางยาบ้า 2,615,500 เม็ด ไอซ์ 1,543 กิโลกรัม เฮโรอีน 202 กิโลกรัม และอื่นๆ อีกหลายรายการ รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูไปแล้วกว่า 16,900 คน และด้านการสร้างความเข้าใจและการเสริมสร้างสังคมพหุวัฒนธรรม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า มุ่งเน้นการปฏิบัติงานในการสร้างความเข้าใจ และเสริมสร้างสังคมพหุวัฒนธรรม ได้ส่งมอบบ้านตามโครงการ "หน่วยเฉพาะกิจยะลา ไม่ทิ้งท่าน" ให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ในพื้นที่ ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา

ด้านความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้กับประเทศในกลุ่มอาเซียน แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ให้การต้อนรับ ฯพณฯ ระห์หมัด บูดีมัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย และคณะ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งที่ประเทศไทย และเดินทางลงพื้นที่เพื่อรับทราบเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา อินโดนีเซียและไทยได้มีการแลกเปลี่ยนพัฒนาสัมพันธ์ระหว่างกันด้วยดีเสมอมา มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แบ่งปันประสบการณ์กันอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังได้ให้การสนับสนุนศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศบค.ส่วนหน้า) ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายจัดตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศบค.ส่วนหน้านั้น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เตรียมแผนสนับสนุนการปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล และผู้บัญชาการทหารบก ทั้งการสกัดกั้นตามแนวชายแดน การสนับสนุนศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงร่วมจัดตั้งด่านตรวจโควิด-19 ในพื้นที่ และการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 พร้อมการสนับสนุนทางการแพทย์ โดยศูนย์ประสานการแพทย์จังหวัดชายแดนภาคใต้ การจัดรถพยาบาลด้วยระบบกู้ชีพ และชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ จัดเจ้าหน้าที่คัดกรองด้วยชุดตรวจเร็ว (Rapid Antigen Test Kit) ให้การสนับสนุนรถพยาบาลพร้อมเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการเชิงรุก และร่วมดำเนินการฉีดวัคซีนให้ประชาชน ร่วมกับภาคสาธารณสุขในพื้นที่อีกด้วย

ด้าน พ.ต.อ.อนุพงษ์ ทัศนา ผู้ช่วยโฆษกกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า สถิติการเกิดเหตุเดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา เกิดเหตุก่อความไม่สงบ 10 เหตุ เหตุปะทะ 1 เหตุ และเหตุก่อกวน 1 เหตุ ออกหมายจับตาม ป.วิอาญาคดีความมั่นคง จำนวน 4 หมาย หลบหนีทั้ง 4 ราย และมีการจำหน่ายหมายจับ ป.วิอาญาในคดีค้างเก่า 25 หมาย มีการออกหมายจับ ตาม พ.ร.ก. จำนวน 1 หมาย จับกุม 1 ราย ด้านความคืบหน้าคดีสำคัญ กรณีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายพิสูจน์ทราบแหล่งพักพิงกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงบริเวณป่าพรุตะโละมีญอ ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ระหว่างวันที่ 28 กันยายน ถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2564

จากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 2 นาย และผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 6 ราย ซึ่งทั้ง 6 รายเป็นผู้ต้องหาในคดีความมั่นคงที่อยู่ระหว่างหลบหนี มีหมายจับ ป.วิอาญารวมกัน 20 หมาย และเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีคำพิพากษาคดีความมั่นคง ได้แก่ คดีนำระเบิดมาผูกติดกับเสาไฟฟ้า พื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง เมื่อ 11 สิงหาคม 2561 คดีนี้ถือว่าถึงที่สุด เนื่องจากศาลฎีกาพิพากษาโทษจำคุก 14 ปี 1 ราย คดีตรวจยึดเครื่องกระสุนปืน พื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อ 21 มกราคม 2562 คดีนี้ถือว่าถึงที่สุดเช่นกัน โดยศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี 4 เดือน 1 ราย คดีโจมตีสถานียุทธศาสตร์กลาพอ พื้นที่ อ.สายบุรี เมื่อ 20 กรกฎาคม 2548 โดยศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษประหารชีวิต 1 ราย และคดียิงอาสาสมัครทหารพรานนาวิกโยธินเสียชีวิต 2 นาย เหตุเกิดพื้นที่ ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อ 26 พฤษภาคม 2562 ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต 3 คน และยกฟ้อง 2 คน

ขณะที่ พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานในห้วงเดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ศอ.บต.นำโดย พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้มีโอกาสต้อนรับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะเดินทางออนทัวร์ชายแดนใต้ ระหว่างวันที่ 14-16 ตุลาคม 2564 โดยได้ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมระบบการขนส่งระหว่างประเทศ สะพานด่านพรมแดนไทย ที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย พร้อมร่วมประชุมหารือร่วมกับผู้บริหาร ศอ.บต. มอบนโยบายการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล เรื่องการขับเคลื่อนเมืองต้นแบบที่ 4 นิคมอุตสาหกรรมจะนะ และการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาผลไม้ในพื้นที่ รวมทั้งได้ประกาศมาตรการ 17+1 การบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกปี 2565 โดยมาตรการ 17 ด้าน เป็นมาตรการที่หนุนเสริมแล้วในภาคตะวันออกของประเทศ ส่วน +1 เป็นมาตรการเร่งรัดการเปิดด่านชายแดนใต้ เพื่อระบายสินค้าทางการเกษตรไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ง่ายขึ้น เนื่องจากในปี 2563 ชายแดนใต้ส่งออกผลไม้มีมูลค่ากว่า 765 ล้านบาท แต่ในปีนี้ส่งออกได้ถึง 1,447 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียง 6 เดือน

สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต.ได้หนุนเสริมการทำงานของศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ “ศบค.ส่วนหน้า” โดยได้สนับสนุนมาตรการเยียวยาแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของหน่วยงานภาครัฐในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งประชาสัมพันธ์เชิงรุกผ่านช่องทางการสื่อสารของ ศอ.บต.ทุกช่องทาง พร้อมได้ดำเนินกิจกรรมนำประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปประกอบพิธีอุมเราะฮ์ในวันที่ 28-29 พ.ย.นี้ โดยปีนี้ประเทศซาอุดีอาระเบียได้รับอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามสูตรที่กำหนด เดินทางไปแสวงบุญที่ประเทศซาอุดีอาระเบียได้ ซึ่ง ศอ.บต.ได้มอบหมายให้จังหวัด และอำเภอพิจารณาคัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 112 คน จาก จ.ปัตตานี 29 คน ยะลา 43 คน นราธิวาส 45 คน สงขลา 4 คน สตูล 1 คน และได้ดำเนินการจ่ายเงินสวัสดิการแก่ครู และบุคลากรทางการศึกษาเพิ่มเติมจากเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รายละไม่เกิน 400,000 บาท โดยใช้งบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ ช่วยเหลือ จำนวน 162 ราย ที่ได้รับผลกระทบตั้งแต่ 1 ม.ค.2547 เป็นต้นมา โดยเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการได้จ้างเงินสวัสดิการเพิ่มเติม 39 รายๆ ละ 2,800,000 บาท รวม 34 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น