ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ส.ส.เต้” มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ซัด “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ยังไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจภูเก็ตพลิกฟื้น แนะรัฐบาลต้องช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยให้ฟื้นตัวเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวรอบใหม่
เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (28 ต.ค.) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต เพื่อพบปะและรับทราบปัญหาของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่หาดป่าตอง ทั้งผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก รถตุ๊กตุ๊ก มอเตอร์ไชค์รับจ้าง และเดินพบปะผู้ประกอบการในซอยบางลา ซึ่งเป็นแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนชื่อดังของภูเก็ต
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า การเดินทางมาภูเก็ตในครั้งนี้เพื่อต้องการทราบว่าที่รัฐบาลออกมาพูดว่าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ประสบความสำเร็จ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมากและสามารถทำให้ภูเก็ตกลับมาเหมือนเดิมได้นั้น เป็นไปอย่างที่พูดกันหรือไม่
แต่เท่าที่ทราบตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.64 จนถึงปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ตประมาณ 40,000 กว่าคนเท่านั้น ซึ่งจากการพูดคุยกับทางนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในภูเก็ตแต่ละคนจะใช้อยู่ที่ 100,000 บาท มีรายได้จำนวนประมาณ 3 แสน 4 หมื่นล้านบาทต่อปี เดือนหนึ่งก็ตกประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ทำให้รายได้ยังกระจายไปไม่ถึงผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อย และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังตั้งหลักไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่หรือรายย่อย โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก หรือโฮลเทลต่างๆ ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีห้องพักไม่กี่ห้อง ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ไม่สามารถที่จะเปิดให้บริการได้ในขณะนี้ เนื่องจากยังติดเงื่อนไข พ.ร.บ.กฎหมายโรงแรมปี 2547
“เท่าที่ดูในภาพรวมของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ยังไม่ขยับ เพราะผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก รายใหญ่ยังมีหนี้สินเป็นจำนวนมาก ซึ่งถ้าเป็นต่างประเทศจะมีเงินอุดหนุนจากทางรัฐบาลในการเยียวยาในการลงทุนใหม่ แต่ในประเทศไทยผู้ประกอบการต้องดิ้นรนเอง เช่น การทำ SHA+ ต้องมีค่าใช้จ่ายสูง สุดท้ายผู้ประกอบการไม่สามารถเปิดให้บริการได้” นายมงคลกิตติ์ กล่าวและว่า
จากการติดตามสถานการณ์เป็นห่วงพี่น้องชาวภูเก็ตเป็นอย่างมาก เพราะจากการสอบถามพบว่าผู้ประกอบการมีหนี้สินเป็นจำนวนมาก หลักหลายล้าน และสถาบันทางการเงินไม่ได้มีการช่วยเหลือเท่าที่ควรจะเป็น อย่างการปล่อยเงินกู้ และซอฟต์โลน ช่วยเหลือผู้ประกอบการจะติดเรื่องใบอนุญาต ติดเรื่องสเตตเมนต์ เรื่องเครดิตบูโร แม้กฎหมายจะผ่านสภาไปแล้ว แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ได้อนุโลมไม่ได้ผ่อนปรน ในความเป็นจริงสถานการณ์แบบนี้รัฐบาลเองเมื่อคิดที่จะเปิดประเทศแล้วจำเป็นที่จะต้องให้เงินทุนผู้ประกอบการในการที่จะมารื้อฟื้นเศรษฐกิจ เพื่อจะรองรับนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเข้ามายังประเทศ และต้องให้มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ยืดระยะเวลาให้ผู้ประกอบการสามารถยืนได้