ชุมพร - หาดทรายรี แหล่งท่องเที่ยวสวยงามอันดับ 1 ของชุมพรกำลังจะหายไป หลังกรมโยธาธิการฯ ทุ่มงบกว่า 80 ล้าน ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งตลอดแนวกว่า 600 เมตร ชาวบ้านหวั่นผลกระทบทำลายแหล่งท่องเที่ยวอย่างสิ้นเชิง
หาดทรายรี ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร แหล่งท่องเที่ยวมีชายหาดสวยงามขึ้นชื่อของ จ.ชุมพร ซึ่งสถานที่แห่งนี้ในอดีตเป็นพระตำหนักที่ประทับของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ย หรือหมอพร และเป็นแหล่งเรียนรู้ยาสมุนไพรตำรับหมอพร หลังพระองค์สวรรคต ปัจจุบันได้มีการสร้างพระตำหนักที่ประดิษฐานพระบรมรูปของพลเรือเอกเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดศักดิ์ มีประชาชนจากทั่วสารทิศมากราบไหว้สักการะอย่างไม่ขาดสาย ด้านหน้าชายหาดจะมีเกาะเล็กเกาะน้อยจำนวนมาก มองดูสวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยวทางทะเลอย่างมาก ดังคำขวัญประจำจังหวัดที่ว่า “ชุมพร ประตูภาคใต้ ไหว้เสด็จในกรม ชมไร่กาแฟ แลหาดทรายรี ดีกล้วยเล็บมือ ขึ้นชื่อรังนก”
แต่วันนี้ชายหาดที่สวยงามกำลังจะเปลี่ยนไปเมื่อกรมโยธิการและผังเมือง มีโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 6 ต.หาดรี อ.เมือง จ.ชุมพร โดยมีบริษัท ช.ฐานเพชร เป็นคู่สัญญาในการก่อสร้าง ด้วยงบประมาณ 82 ล้าน ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 700 วัน และสิ้นสุดสัญญาในปี 2565 โดยผู้รับเหมาได้ระดมเครื่องจักรหนักเบาเข้าไประดมการก่อสร้างบนชายหาดตามโครงการดังกล่าว จนมองไม่เห็นความสวยงามของหาดทรายรีแห่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.ชุมพรอีกต่อไป
ทำให้นักท่องเที่ยวและประชนชนที่ไปพบเห็นต่างวิพากษ์วิจารณ์ ว่า เป็นการป้องกันหรือทำลายสิ่งแวดล้อม และกำลังกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างอยู่ขณะนี้ ซึ่งหากการก่อสร้างแล้วเสร็จหาดทรายรีที่สวยงามจะไม่มีชายหาดเห็นให้เห็น และลงไปเดินเที่ยวเล่นได้อีกต่อไป
นายจงรักษ์ พุทธศรี อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/2 หมู่ที่ 7 ต.หาดทรายรี อ.เมืองชุมพร ชาวบ้านที่เห็นหาดทรายรีมาตั้งแต่เกิด เปิดเผยว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยมานานแล้วไม่ว่าจะมีการสร้างเขื่อนที่ไหน ตนเองจะไปช่วยคัดค้านตลอด ถ้าไปไม่ได้จะส่งใจส่งเงินไปช่วย แต่ครั้งนี้มาเกิดที่บ้านเรามันสะท้อนว่าทำไมไม่มีใครมาช่วยคัดค้านกับเราบ้าง คนหาดทรายรีเงียบเกินไปไม่ค่อยมีปากมีเสียง จะทำอะไรก็ทำ ตนเองเห็นแล้วเสียดาย เสียดายภาพบรรยากาศของเก่าริมชายหาดทรายรี
นึกถึงช่วงเวลาที่สามารถเดินเล่นริมหาดได้ และในหลายๆ ที่ในจังหวัดชุมพร เช่น หาดทุ่งวัวแล่น หาดปะทิว ไม่เห็นต้องมีเขื่อนแบบนี้ แต่ทำไมมาทำที่หาดทรายรีแห่งนี้ ซึ่งหากเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลแห่งนี้ถูกสร้างแล้วเสร็จนั้น เชื่อว่าระบบนิเวศจะเสียหายเป็นอย่างมากแน่นอน สิ่งแรกคือ จะไม่มีหาดให้ดู ประมงชายฝั่งที่จะหาปลา หาหอยเสียบ ตกปลาทรายชายฝั่ง ปูทะเล ปูลม จะหายไป ชาวประมงชายฝั่งจะหายไปเพราะไม่มีสัตว์น้ำมาอาศัย แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าระบบนิเวศเสียหายอย่างแน่นอน
สำหรับการก่อสร้างโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลนั้นมีความยาวประมาณ 633 เมตร ใช้ประมาณ 82 ล้าน มีการทำแนวกันคลื่นเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง โดยตัวแทนโครงการ ระบุว่า เดิมพื้นที่จุดนี้มีแนวป้องกันการกัดเซาะอยู่แล้ว จะเป็นในลักษณะกำแพงแนวตั้ง ซึ่งเป็นการก่อสร้างเพื่อทดแทนกำแพงเดิมให้เป็นลักษณะลาดลงไปในชายหาด ความยาวของแนวกันคลื่นนั้นมีความยาวประมาณ 10 เมตร จากด้านบนไปจนถึงพื้นด้านล่างบริเวณชายหาด การก่อสร้างเป็นลักษณะของขั้นบันได ประมาณ 10 ขั้น ยื่นลงไปบนชายหาด
โดยขั้นบันไดประมาณ 2-3 ขั้นสุดท้ายนั้น เมื่อสร้างแนวเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลเสร็จเรียบร้อยแล้วมีการปรับชายหาดให้เหมือนเดิมนั้น บันได 2-3 ขั้นก็จะถูกฝังลงในทราย แต่เมื่อถึงฤดูกาลที่น้ำทะเลลงจะสามารถเห็นขั้นบันไดที่ถูกทรายฝังไว้ โครงการนี้นอกเหนือจากทำแนวกันคลื่นป้องกันตลิ่งพังแล้ว ยังเป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณแนวชายหาดด้วย โดยจะมีการปูตัวหนอนเป็นทางเดินให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่น ให้ชาวบ้านได้ออกกำลังกาย เป็นความกว้างประมาณ 5 เมตร ตลอดแนวชายฝั่ง
อย่างไรก็ตาม ในหลายพื้นที่มีการก่อสร้างเขื่อนในลักษณะนี้ หากในช่วงที่น้ำทะเลขึ้นคลื่นจะพัดเอาทรายขึ้นมาปิดตัวบันไดที่ยื่นลงไปในชายหาด ความสวยงามหาดทรายยังคงอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้กระทบต่อความสวยงามหรือระบบนิเวศชายฝั่งแต่อย่างใด