ยะลา - นอภ.เบตงรับตัวนักโทษคดีอาวุธสงคราม-ยาเสพติด ที่หนีออกจาก รพ.เบตง หลังพบติดเชื้อโควิด-19 แล้ว เจ้าตัวอ้างไม่ได้รับความยุติธรรม เสพไอซ์อย่างเดียวไม่ได้จำหน่าย ซ้ำยังโดนข้อหาขายยาบ้าด้วย หวั่นติดคุกแล้วไม่มีใครหาเลี้ยงลูกเมีย เงินที่กู้มาประกันไม่มีใครจ่าย ติดคุก 5-6 ปียอดอาจพุ่งเป็น 6 แสนบาท
วันนี้ (24 ต.ค.) นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นอภ.เบตง จ.ยะลา พร้อมกำลัง อส. ตำรวจ สภ.เบตง และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ เดินทางไปยังจุดนัดหมายตามที่แหล่งข่าวแจ้งมาให้ไปรับตัวนายมะแอ สาแม อายุ 43 ปี ผู้ต้องขังคดีอาวุธปืนสงครามเอ็ม16 พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 มม.จำนวน 145 นัด และไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งต่อมา ศาลตัดสินจำคุก 4 ปี 8 เดือน 23 วัน ภายหลังจากฟังคำตัดสินได้เข้ากระบวนการตรวจเชื้อโควิด-19 ผลออกมาเป็นบวก เจ้าหน้าที่จึงนำตัวเข้ารักษาตัวที่ รพ.เบตง แต่ได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลเมื่อช่วงเช้าประมาณ 05.00 น. วันที่ 23 ต.ค.
นายมะแอ อ้างว่า สาเหตุที่หลบหนีเพราะต้องการความยุติธรรม เนื่องจากศาลชั้นต้นตัดสินว่าตนจำหน่ายไอซ์ ต่อมาได้อุทธรณ์และได้มาฟังคำตัดสิน ศาลตัดสินจำคุก 4 ปี 8 เดือน 23 วัน ในข้อหาจำหน่ายยาบ้า ซึ่งในความจริงตนได้ปฏิเสธว่า ไม่ได้จำหน่ายไอซ์ ยอมรับว่าเสพ แต่พอมาฟังคำตัดสินกลับกลายเป็นว่า ตนสารภาพทุกข้อกล่าวหา และได้ถูกตัดสินในข้อหาจำหน่ายยาบ้า ซึ่งในวันเกิดเหตุไม่มียาบ้าสักเม็ด
"นอกจากนี้ ผมยังต้องไปกู้เงินมาสู้คดีเพื่อนำเงินที่กู้ไปประกันตัวออกมา จนมาถูกตัดสินดังกล่าว อีกอย่างหากผมติดคุกไป ไม่มีใครที่จะมาหาเงินเลี้ยงลูก เมีย และเมียเพิ่งทำงานได้วันละ 280 บาท และต้องผ่อนเงินเดือน 4,500 บาท แต่พอผมมาถูกจับใครจะหา เงินที่กู้มา เจ้าของเงินบอกว่า หากไม่จ่ายภายใน 2 เดือนจะปรับยอดเงิน หากผมติดคุก 5-6 ปี เงินก็จะปรับยอดเป็น 6 แสนบาท" นายมะแอ กล่าว
ด้านนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นอภ.เบตง ได้พูดคุยกับนายมะแอ ว่า จะดูแล และจะไปพูดคุยกับเจ้าของเงินให้ยืดระยะเวลาไปก่อน เพื่อเป็นการทุเลาในการต้องรีบหาเงินมาคืน ภายหลังจากนายมะแอ ยอมรับตามที่นายอำเภอเบตงว่าจะดูแลในทุกด้าน เมื่อเข้าไปในเรือนจำจะไม่ถูกทำร้าย ส่วนเรื่องเงินจะไปเจรจาต่อรองให้ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมาที่ รพ.เบตง โดยมีลูก 3 คนมารอรับ ส่วนภรรยานายมะแอ ต้องรอผลตรวจว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่