ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย” กูรูด้านการท่องเที่ยว ยืนยันการท่องเที่ยวภูเก็ตกลับมาเฟื่องฟูอีกแน่นอน เพียงแต่ต้องใช้เวลา ที่สำคัญผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวรับกับความเปลี่ยนแปลง
กูรูด้านการท่องเที่ยว “ประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย” ประธานกรรมการบริหารเครือกะตะกรุ๊ป รีสอร์ท กล่าวถึงแนวโน้มการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ว่า จังหวัดภูเก็ตได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาเกือบ 2 ปี ซึ่งที่ผ่านมาทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบอย่างถ้วนหน้า แต่ขณะนี้เริ่มมีข่าวดีเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทางประเทศอังกฤษยกเลิกประกาศให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่สีแดง และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวในบางประเทศตั้งแต่ พ.ย.64 เป็นต้นไป จะทำให้นักท่องเที่ยวตลาดหลักเริ่มเดินทางเข้ามาอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมา มีการสอบถามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะเดินทางเข้ามาเพียงแต่รอดูนโยบายการเปิดประเทศของไทยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับในส่วนของโรงแรมตนซึ่งมีอยู่ 8 แห่ง พบว่า เริ่มมีการจองห้องพักเข้ามาอย่างต่อเนื่องนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการท่องเที่ยวภูเก็ต และเดือน พ.ย.64-ม.ค.65 เชื่อว่านักท่องเที่ยวจะทยอยเข้าพื้นที่แต่คงจะไม่หวือหวาเหมือนช่วงที่ผ่านมาก่อนเกิดโรคระบาด แต่ถ้าจะให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมากเหมือนเมื่อก่อนตนคิดว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2 ปี
สำหรับจังหวัดภูเก็ต และประเทศไทยนั้นยังคงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ยังอยากจะกลับเข้ามา แต่อย่างไรก็ตาม การที่จะทำให้นักท่องเที่ยวกลับมานั้นในส่วนของผู้ประกอบการ เจ้าของโรงแรม พนักงานโรงแรม และคนในพื้นที่จะต้องปรับตัวกันอย่างใหญ่โตเพื่อรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพราะความต้องการของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาหลังจากนี้คงไม่ได้เดินทางเข้ามาเพื่อการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่หลังจากนี้กลุ่มที่เดินทางเข้ามานั้นจะเป็นกลุ่มที่เดินทางเพื่อมาท่องเที่ยวไปด้วยและทำงานไปด้วย นอกจากนั้น ยังมีในกลุ่มที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและรักษาโรค
นายประมุขพิสิฐ ยังได้กล่าวต่อไปว่า หลังจากมีการระบาดของโรคโควิด-19 เกิดขึ้น พบว่าพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง นักท่องเที่ยวมีการระมัดระวังในเรื่องของการใช้จ่ายมากขึ้น และในการเดินทางมาท่องเที่ยวนั้นนักท่องเที่ยวที่จะอยู่ให้ยาวนานมากขึ้น เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและที่สำคัญมาแล้วสามารถที่จะทำงานได้ด้วย ณ เวลานี้มีหลายโรงแรมที่เริ่มปรับตัวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวลุ่มนี้โดยการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกเข้าไปรองรับเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวด้วยทำงานไปด้วยได้
ส่วนสถานการณ์การท่องเที่ยวช่วงไฮซีซันนี้คิดว่า เป็นการเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว และเริ่มที่จะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และสื่อให้เห็นว่านักท่องเที่ยวยังคงต้องการเดินทางกลับมา ซึ่งนักท่องเที่ยวมาประมาณ 25% นับว่าเป็นตัวเลขที่ดีแล้ว เพราะอย่างที่บอกถ้าอยากเห็นนักท่องเที่ยวกลับมาคึกคักจะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 2 ปี
และอีก 2-3 ปีข้างหน้าจะกลับมาเป็นปีทองของท่องเที่ยวภูเก็ตอีกครั้ง และอีก 5-6 ปี จะเป็นปีทองแห่งการท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งตนมั่นใจมากว่าการท่องเที่ยวจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เพราะนักท่องเที่ยวเองรู้แล้วว่าภูเก็ตมีความปลอดภัย มีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง เป็นประเทศที่มีความคุ้มค่าในการเดินทางมาใช้จ่าย เนื่องจากไม่แพง และอาหารการกินมีความหลากหลาย