ตรัง - พระรุ่นน้องฉุนพระรุ่นใหญ่ โทร.ขอออกกิจนิมนต์แทนแต่กลับถูกด่า โมโหเลือดขึ้นหน้าคว้ามีดพร้าฟันหน้ายับ ก่อนยืนรอมอบตัว พบประวัติเป็นผู้ป่วยจิตเวช และเคยถูกจับคดียาเสพติดก่อนบวช
ร.ต.อ.เวชยันต์ หิรัญญสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเกิดเหตุพระใช้อาวุธมีดฟันพระด้วยกันได้รับบาดเจ็บ ภายในสำนักสงฆ์เขาหลักจันทร์ หมู่ 12 บ้านเขาโหรง ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณหน้ากุฏิพบหยดเลือด และกองเลือดตกอยู่บนพื้นจำนวนมาก ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ พระสุเทพ ธนจาโร หรือหลวงพี่แจ๊ส อายุ 63 ปี พระลูกวัด ถูกพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ตรังไปก่อนหน้าแล้ว โดยได้รับบาดเจ็บถูกฟันด้วยมีดพร้าเข้าที่ใบหน้า ปาก และจมูก เป็นแผลฉกรรจ์เกือบขาด
ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายธนกฤต สาริยะสุนทร หรือหลวงพี่กฤต อายุ 30 ปี พระลูกวัด นั่งรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ภายในศาลาการเปรียญ ในสภาพตัวสั่นเครือ เนื้อตัว และจีวรเปื้อนเลือด พร้อมด้วยของกลางเป็นมีดพร้า 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกันนั้น พระเคารพ ยติโก หัวหน้าสำนักสงฆ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ทำการลาสิกขา หรือสึกพระธนกฤต โดยทันที ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะใส่กุญแจมือ และควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายที่ สภ.เมืองตรัง
นายธนกฤต หรือหลวงพี่กฤต กล่าวว่า ตนกับหลวงพี่แจ๊ส ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่ก่อนเกิดเหตุตนเองได้โทรศัพท์หาหลวงพี่แจ๊ส ซึ่งเพิ่งกลับจากกิจนิมนต์ว่างานในค่ำคืนที่จะถึง ตนขอไปออกกิจนิมนต์ที่วัดขุนสิทธิ์ ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง แทนได้หรือไม่ เพราะตนไม่ค่อยจะได้ออกไปกิจนิมนต์เท่าไหร่ และอีกอย่างหลวงพี่แจ๊ส ก็ป่วย มีโรคประจำตัวอยู่ด้วย ก่อนที่เจ้าตัวจะตอบกลับมาว่า “ไม่ได้ กูจะไปเอง” ตนจึงพูดไปอีกว่า ขอให้พักผ่อนดีกว่า ให้ตนได้ไปบ้าง เพราะ 4-5 งานมาแล้ว ตนไม่ได้ไปเลย ทำให้หลวงพี่แจ๊ส พูดมาว่า “มึงทำหรอยนะ มาสั่งให้กูพัก ขนาดอาจารย์ยังไม่เคยสั่งกูเลย”
ดังนั้น จึงทำให้ตนโกรธ และโมโหที่ได้ยินคำพูดแบบนั้น จึงเดินออกไปที่กุฏิหลวงพี่แจ๊ส ที่อยู่ห่างกันไปประมาณ 300 เมตร โดยตั้งใจว่าจะไปต่อยหน้า แต่ระหว่างทางเมื่อเดินผ่านหน้ากุฏิของพระอีกรูป เห็นมีดพร้าตั้งอยู่ จึงได้หยิบ และเดินเข้าไปฟันเข้าใบหน้าทันที 1 ครั้ง ก่อนจะมีการยื้อแย่งมีดกัน และมีพระอีกรูปเข้ามาห้าม ก่อนที่ตนจะเดินไปหาหัวหน้าสำนักสงฆ์ พร้อมบอกว่าตนพลาดไปแล้ว ขอให้ช่วยแจ้งตำรวจให้หน่อย ตนรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยจิตเวชของโรงพยาบาลศูนย์ตรัง มีประวัติทำการรักษา และรับประทานยาอยู่อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเคยมีประวัติถูกจับกุมในคดียาเสพติด และเคยถูกนำตัวไปบำบัด ก่อนที่จะมาบรรพชาบวชเป็นพระได้ 1 พรรษา