ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจกองปราบ และตำรวจ ปอศ.นำหมายศาลอาญาเข้าจับกุม “ซ้อปลา” ที่บ้านพักใน จ.สงขลา แต่จับได้เพียงสามีคนเดียว หลังถูกแจ้งความในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
วันนี้ (12 ต.ค.) ตำรวจกองปราบกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.ปิยพล แป้นแก้ว รอง ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.วริศร มัจฉา สว.กก.6 บก.ป. พ.ต.ต.อภิชาติ อินยอด สว กก.6 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ร่วมกับพนักงานสอบสวนสิงหนคร
นำหมายจับของศาลอาญารัชดา เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 48 หมู่ 8 ต.คลองรี อ.สทิงพระ จ.สงขลา เพื่อจับกุม น.ส.กมลวรรณ ปิ่นทองพันธุ์ อายุ 25 ปี หรือซ้อปลา แม่ค้าออนไลน์เจ้าของเพจ “ซ้อปลา มาดามลูกเหนียง” และนายจตุพล ปิ่นทองพันธ์ อายุ 38 ปี สามี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน แต่พบเพียงนายจตุพล สามี อยู่ภายในบ้านเท่านั้น ไม่พบซ้อปลาแต่อย่างใด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลเข้าตรวจค้นที่บ้านอีก 1 หลัง ในพื้นที่ ต.ป่าขาด อ.สิงหนคร จ.สงขลา ที่ทราบว่าซ้อปลา ไปอาศัยอยู่ แต่ไม่พบตัวเช่นกัน คาดว่าสามีน่าจะส่งซิกให้หลบหนีไปก่อนแล้ว เนื่องจากพบพิรุธในไลน์ของสามี โดยได้ลบไลน์ของซ้อปลาทิ้งไปก่อนแล้ว
เบื้องต้น ตำรวจได้ควบคุมตัวนายจตุพล ไปทำบันทึกการจับกุมที่ สภ.ปากรอ อ.สิงหนคร และเตรียมควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่กรุงเทพฯ ส่วนซ้อปลา เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะยังคงกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา และกำลังเร่งสืบสวนหาเบาะแสเพื่อจับกุมต่อไป หากไม่ยอมเข้ามอบตัว
สำหรับคดีนี้สืบเนื่องมาจากมีผู้เสียหายกว่า 200 คน ทั้งในพื้นที่ จ.สงขลา และจังหวัดต่างๆ เข้าแจ้งความต่อตำรวจว่าถูกซ้อปลาอมเงินจากการลงทุนแชร์ออนไลน์ และแชร์ทอง มูลค่าความเสียหายราว 60 ล้านบาท ส่วนกรณีที่ซ้อปลา ออกมาร้องเรียนว่าถูกตำรวจรีดเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัว หลังถูกตำรวจเข้าตรวจค้นที่บ้านพัก ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง
ส่วนคดีที่ซ้อปลา ถูก พ.ต.ท.ขวัญชาติ จันทะ สารวัตรกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และข้อหาหมิ่นประมาท ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเรียกตัวซ้อปลา และผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนต่อไป