ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ไฮซีซัน” ความหวังของคนท่องเที่ยวอันดามัน มั่นใจคนไทย-ต่างชาติเดินทางกลับเข้ามาเพิ่มขึ้น ทำให้เศรษฐกิจสามารถเดินต่อไปด้วย รายได้กระจายเข้าถึงทุกกลุ่ม
ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป นับว่าเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พังงา และ กระบี่ ที่ผ่านมาทุกคนโดยเฉพาะในส่วนของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวที่รออย่างมีความหวังว่านักท่องเที่ยวทั้งคนไทย และชาวต่างชาติจะเดินทางกลับมาท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอันดามัน และประเทศไทยสามารถเดินต่อไปได้ แต่ไฮซีซัน ปีนี้ไม่ได้เป็นปีทองของการท่องเที่ยวเหมือนที่ผ่านมา แต่คนท่องเที่ยวยังหวังว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามามากขึ้น ทำให้อันดามันสามารถขับเคลื่อนไปได้
นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในช่วงไฮซีซันปีนี้ จากการติดตามตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวที่จองเข้ามา พบว่า มีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น และคาดหวังว่าในส่วนของนักท่องเที่ยวคนไทยจะเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะขณะนี้ทาง ททท.ได้ออกเปิดให้จองสิทธิตามโครงการเราเที่ยวด้วยกันถึง 2 ล้านสิทธิ และทัวร์เที่ยวไทยอีก 1 ล้านสิทธิ รวมไปถึงทางทีเส็บได้มีโครงการในการส่งเสริมการจัดประชุมสัมมนาอีกด้วย แคมเปญเหล่านี้จะทำให้คนไทยมาเที่ยวภูเก็ตมากขึ้น
และการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์รับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามานั้น ทาง ททท.ไม่ได้ทำตลาดต่างประเทศเพียงอย่างเดียว แต่ได้ทำตลาดคนไทยควบคู่กันไปด้วย เพราะตลาดคนไทยเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับภูเก็ต โดยทาง ททท.ได้ตั้งเป้าตัวเลขนักท่องเที่ยวคนไทยไว้ที่ 500,000 คน ในไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อภูเก็ตได้มีการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าจังหวัด จะทำให้คนไทยเดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน เพราะภูเก็ตเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเที่ยวทะเลในช่วงไฮซีซัน เพราะขณะนี้ทะเลของภูเก็ตมีความสวยงามเป็นอย่างมาก และที่สำคัญภูเก็ตในช่วงนี้ราคาที่พักในภูเก็ตแสนจะคุ้มค่า
ขณะที่นายพงศกร เกตุประภากร ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา กล่าวว่า การเปิดแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดพังงานั้นจะดำเนินการใน 2 รูปแบบ คือ การต้อนรับนักท่องเที่ยวคนไทย ซึ่งขณะได้มีการบูรณาการความร่วมมือของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเรื่องของความปลอดภัยให้สูงสุด รวมทั้งมีการระดมฉีดวัคซีนในส่วนของผู้ประกอบการ พนักงานในพื้นที่นำร่อง ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติทราบว่าขณะนี้เริ่มที่จะมีการจองห้องพักเข้ามาแล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะมีการปรับลดมาตรการต่างๆเพื่อให้การจองห้องพักง่ายขึ้นซึ่งจะทำให้การจองห้องพักมีมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปีนี้มั่นใจว่าพังงาจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท จากทั้งนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ โดยขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดพังงามีโรงแรมเปิดให้บริการอยู่ประมาณ 50% และขณะมีมีข่าวดีว่า จังหวัดพังงาจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาตั้งแต่วันที่ 1 ของการเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้เลย โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นมา ภายใต้มาตรการที่กำหนด ซึ่งการปรับมาตรการดังกล่าวจะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าจังหวัดพังงามากยิ่งขึ้น
เมื่อมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมากจะทำให้เกิดรายได้ และรายได้ที่เกิดขึ้นก็จะกระจายไปยังผู้ประกกอบการภาคส่วนต่างๆ ซึ่งจะทำให้สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดพังงาได้ ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จองการเดินทางเข้ามาในช่วงไฮซีซันนั้นส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากเยอรมนี อเมริกา สแกนดิเนเวีย รัสเซีย ในอนาคตคาดว่าจะมีในส่วนของอิตาลี ฝรั่งเศส ซึ่งคาดว่าไฮซีซันปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประมาณ 30,000 คืน สร้างรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท
นายพงศกร กล่าวต่อไปว่า ในการเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน นั้น ในส่วนของผู้ประกอบการจะต้องเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ทั้งเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก เรื่องของการป้องกันโรคระบาด และการบริหารจัดการกรณีเกิดการระบาดขึ้น ซึ่งเป็นแผนการรองรับ นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มในบางจุด เช่น เกาะสิมิลัน รวมไปถึงการจัดกิจกรรม เซิร์ฟบอร์ด และเซิร์ฟสเกตที่เขาหลัก ซึ่งจะเริ่มดำเนินการประมาณวันที่ 1 พ.ย.64 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน
ด้าน น.ส.วิชุพรรณ ภูเก้าล้วน ศรีสัญญา นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาในส่วนของจังหวัดอันดามันทำรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก การลงทุนเรื่องของความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งจำเป็น ในส่วนของจังหวัดกระบี่ยังขาดวัคซีนอยู่ประมาณ 5 แสนโดส นอกจากนั้น ความพร้อมในเรื่องของการแพทย์ก็เป็นสิ่งสำคัญ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า การท่องเที่ยวจะเป็นอุตสาหกรรมแรกจะมีการฟื้นตัวเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงนี้
ส่วนการท่องเที่ยวไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของอันดามัน คาดหวังว่าตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศจะเป็นกำลังสำคัญในการเดินทางกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง ในขณะที่ทรัพยากรธรรมชาติกำลังฟื้นฟู ที่ผ่านมาผู้ประกอบการมีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ในการต้อนนักท่องเที่ยวเดินทางกลับ ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่กระบี่ไม่น้อยกว่า 10-15% จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในช่วงเดียวกันก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด โดยตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 คน รายได้ที่เกิดขึ้นประมา 1,200 ล้านบาท ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามา
น.ส.วิชุพรรณ ยังได้กล่าวต่อไปถึงปัญหาการระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ที่ยังคงมีความรุนแรง ว่า การจะสร้างความเชื่อมั่นและทำให้กระบี่ปลอดไปนั้นคิดว่าหัวใจสำคัญเรื่องนี้คือ เรื่องของวัคซีนที่จะฉีดให้คนกระบี่ครอบคลุมทั้งจังหัดซึ่งขณะนี้ขาดอยู่ประมาณ 5 แสนโดส ซึ่งพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวขณะนี้ฉีดไปครบ 100% แล้ว แต่ถ้าสามารถฉีดได้ครบทั้งจังหวัดจะทำให้เกิดความมั่นใจในการเดินทางมาท่องเที่ยว