xs
xsm
sm
md
lg

โควิด-19 จ.สงขลาพุ่งน่าตกใจ! พบรายใหม่วันนี้ 504 ราย “นิพนธ์” ห่วง 5 จังหวัดชายแดนใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - โควิด-19 จ.สงขลาพุ่งน่าตกใจ! พบรายใหม่วันนี้ 504 ราย “นิพนธ์” ห่วง 5 จังหวัดชายแดนใต้ พบติดเชื้อรายใหม่ 2,101 ราย สั่งให้จังหวัดเตรียมสถานที่ตั้งโรงพยาบาลสนามรับมือ

วันนี้ (9 ต.ค.) รายงานข่าวจากกลุ่มภารกิจสื่อสารความเสี่ยง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา เปิดเผยจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ 504 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 36,439 ราย เสียชีวิต 160 ราย นอนรักษาในโรงพยาบาล 6,400 กว่าราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 29,500 กว่าราย

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ป่วยที่พบจากการตรวจคัดกรองกลุ่มผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่สูงสุด กระจายในครอบครัว และชุมชนหลายอำเภอที่มีสถิติสูงติดต่อกัน มีทั้ง อ.เมืองสงขลา หาดใหญ่ จะนะ สิงหนคร รัตภูมิ สะเดา สะบ้าย้อย และ อ.เทพา ส่วนอำเภออื่นๆ พบผู้ป่วยบ้างแต่ไม่มาก นอกจากนั้น พบในกลุ่มผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อในโรงงาน ชุมชน ร้านค้า บริษัท และกลุ่มผู้เดินทางจากต่างจังหวัด

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และ จ.สงขลา ที่ยังพบผู้ติดเชื้อค่อนข้างสูง จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานบูรณาการเพื่อลดผู้ติดเชื้อ แนวทางการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นายนิพนธ์ เปิดเผยว่า ตนรับรายงานสถานการณ์โควิด-19 รายใหม่ที่พบใน 5 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง จ.สงขลา 504 ราย ยะลา 650 ราย นราธิวาส 470 ราย ปัตตานี 413 ราย และ จ.สตูล 64 ราย ซึ่งถือว่ายังสูงอยู่ ตนได้รับรายงานจากหน่วยงานสาธารณสุข พบว่า มีการแพร่ระบาดลงสู่ชุมชน และครอบครัว

นายนิพนธ์ เปิดเผยด้วยว่า ควรให้มีการจัดตั้งสถานกักกันโรคท้องที่ การกักกันที่บ้านหรือระบบดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ในชุมชน โดยมอบภารกิจหลักท้องที่ ส่วนท้องถิ่น และสาธารณสุขในพื้นที่จัดเตรียมสถานที่เพื่อรองรับโรงพยาบาลสนามเพื่อใช้รองรับผู้ป่วยให้เพียงพอ จะมีมาตรการดูแลอย่างใกล้ชิด และเข้มงวด จึงต้องลงพื้นที่อย่างเข้มข้น

“เพื่อเฝ้าระวังสอบสวนควบคุมป้องกันโรค เน้นการปฏิบัติการเชิงรุก ตรวจไว ติดตาม และคัดแยก กักตัว เน้นค้นหาผู้ติดเชื้อรายใหม่ และผู้สัมผัสใกล้ชิดที่อยู่ร่วมกันในบ้าน ชุมชน และสถานประกอบการ โดยใช้ชุดทดสอบ ATK คัดกรอง เพื่อติดตามค้นหาผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อให้เร็วที่สุด และครบทุกคน ปรับมาตรการดูแลประชาชนในเชิงรุกเพิ่มมากขึ้น”


กำลังโหลดความคิดเห็น