นครศรีธรรมราช - หมางใจกันมานาน! อา-หลานเกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน ถึงจุดดับดวลมีดชุลมุนเดือด สุดท้ายหลานได้แผลแค่บาดเจ็บ ส่วนอาถูกแทงหลายแผลเสียชีวิตคาที่
เมื่อคืนที่ผ่านมา ร.ต.อ.อนันต์ บุญทรง พนักงานสอบสวนเวร สภ.ฉวาง รับแจ้งมีเหตุฆาตกรรมที่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 7 ต.ฉวาง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมชุดสืบสวนสอบสวนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพบศพ นายพงษ์ศักดิ์ รำเพย อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113/2 หมู่ 7 ต.ฉวาง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพนุ่งกางเกงในสีดำตัวเดียว ลำตัวมีบาดแผลถูกแทงหลายแผล ส่วนคู่กรณีเป็นหลานชายของผู้ตาย ทราบชื่อคือ นายอัครวิทญ์ รำเพย อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 7 ต.ฉวาง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชไปก่อนหน้าแล้ว สภาพมีบาดแผลถูกแทงเข้าบริเวณใบหน้า
เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลได้ความว่า นายพงษ์ศักดิ์ รำเพย ผู้ตาย ซึ่งเป็นอาของนายอัครวิทญ์ ได้นั่งกินอาหารอยู่ที่โต๊ะภายในบ้านที่เกิดเหตุ และขณะนั้นนายอัครวิทญ์ หลานชายของผู้ตายได้มาเข็นวีลแชร์ของปู่เพื่อพาไปทำความสะอาดร่างกาย เนื่องจากปู่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ระหว่างนั้นนายพงษ์ศักดิ์ ได้ด่าว่ากล่าวนายอัครวิทญ์ ด้วยมูลเหตุเก่าที่หมางใจกันมานาน ก่อนที่จะบานปลายกลายเป็นมีปากเสียงแล้วถึงขั้นทะเลาะวิวาทกัน และนายพงศักดิ์ ได้ถือมีดปรี่เข้าไปแทงนายอัครวิทญ์ เข้าใบหน้า หลังจากนั้นได้เกิดชุลมุนขึ้น ก่อนที่นายพงษ์ศักดิ์ จะถูกแทงสวนหลายแผลจนแน่นิ่งไป เมื่อญาติพยายามเข้าแยกพบว่านายพงษ์ศักดิ์ เสียชีวิตแล้ว ส่วนนายอัครวิทญ์ได้รับบาดเจ็บ และรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ในสภาพเลือดอาบใบหน้า ก่อนถูกเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาล
นายอัครวิทญ์ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเองกับอามีเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำ ขณะเกิดเหตุผู้ตายได้ปรี่เข้ามาใช้มีดแทงเข้าใบหน้าก่อนที่จะชุลมุน ขณะที่ตนเองนั้นพกมีดเป็นประจำอยู่แล้ว และได้ใช้มีดออกมาตะลุมบอนแทงสวนไปหลายครั้งจนแน่นิ่งไป ก่อนที่ญาติจะเข้ามาห้ามปราม เมื่อแยกออกจากกันพบว่าอาได้เสียชีวิตไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายอัครวิทญ์ ไปรักษาบาดแผล จากนั้นได้นำตัวไปแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ขณะที่นายอัครวิทญ์ได้อ้างว่าเป็นการต่อสู้เพื่อป้องกันตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้คุมตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป
