นครศรีธรรมราช - ยิงหนุ่มใหญ่เสียชีวิตหน้ากระท่อม เจอร่องรอยการต่อสู้ก่อนโดนยิง ตร.ตรวจภาพจากกล้องจรปิดพบ 2 ชายหญิงมาหาผู้ตายก่อนขับออกจากพื้นที่ไปอย่างรวดเร็ว ผู้ตายรู้ตัวถูกปองร้ายซุ่มนอนไม่เป็นที่
วันนี้ (27 ก.ย.) ร.ต.อ.นพพล คำทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.ท.พีระพงศ์ ยอดสุรางค์ รอง ผกก.สส.หัวหน้าพนักงานสอบสวน รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ แพทย์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจเข้าตรวจสอบเหตุฆาตกรรมที่หน้ากระท่อมกลางป่า ในท้องที่ หมู่ 7 ต.เชียรเขา อ.เฉลิมพระเกียรติ พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายโกวิทย์ โดดำ อายุ 36 ปี อยู่ ต.บางตะพง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าหน้าอกและลำตัว ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์สีแดงจอดอยู่ในสภาพเรียบร้อย นอกจากนั้น ยังพบร่องรอยต้นไม้ข้าวของกระจุยกระจายน่าจะมีการต่อสู้ก่อนที่จะเกิดการยิงกันขึ้น
เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นได้ความว่า นายโกวิทย์ ผู้ตายได้มาทำงานก่อสร้างบ้านให้คนในพื้นที่โดยพักอยู่ที่กระท่อมหลังดังกล่าวเพียงคนเดียว ก่อนเกิดเหตุมีคนเห็นชายหญิงคู่หนึ่งขับขี่และซ้อนท้ายจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนมุ่งหน้าไปหาผู้ตายที่กระท่อม จากนั้นไม่นานได้มีเสียงปืนดังขึ้น และถัดมาอีกอึดใจพบชายหญิงดังกล่าวรีบขับรถและซ้อนท้ายออกมาอย่างรวดเร็ว ต่อมา ผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุได้เข้าไปเจอร่างนายโกวิทย์ อยู่ในสภาพอาการสาหัส จากนั้นจึงแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาชนร่วมใจไปให้การช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าเมื่อไปถึงพบว่านายโกวิทย์ ไม่มีสัญญาณชีพแล้ว จึงวิทยุแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ
พ.ต.ท.พีระพงศ์ ยอดสุรางค์ รอง ผกก.สส.หัวหน้าพนักงานสอบสวน รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ ระบุว่า คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นชายผู้หญิงที่มาด้วยกัน เกิดขัดแย้งกับนายโกวิทย์ ผู้ตาย ก่อนจะมีปากเสียงและน่าจะมีการชกต่อยกันขึ้นแล้วมีการใช้อาวุธปืนยิงกัน ขณะนี้ตำรวจได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณเส้นทางจุดทางเข้ามาในที่เกิดเหตุ พบว่าชายหญิงที่มาหาผู้ตายขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุมีท่าทางลุกลี้ลุกลนตรงกับการให้ข้อมูลของผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งทราบแล้วว่าเป็นใคร ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากความขัดแย้งกันในกลุ่มสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากที่กระท่อมที่เกิดเหตุนั้นเป็นแหล่งมั่วสุมจุดหนึ่งที่เจ้าหน้าที่คอยติดตามสืบสวน
อย่างไรก็ตาม จะทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ต่อไป นอกจากนี้ ยังพบว่านายโกวิทย์ ผู้ตายนั้น แม้จะมีที่พักที่กระท่อม แต่ในตอนกลางคืนจะไม่นอนในกระท่อม โดยจะผูกเปลไว้ในต้นไม้ที่อยู่รอบๆ ที่เกิดเหตุ จะนอนบนเปลแบบไม่เป็นที่ ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่านายโกวิทย์ อาจจะรู้ตัวว่าถูกปองร้าย จึงไม่ยอมนอนเป็นที่ ก่อนจะมีคนร้ายมาหาตอนกลางวันแล้วก่อเหตุขึ้น