ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจคาด "จ่าแอน" หนีกลับตรัง บ้านเกิด หรือที่ จ.ยะลา พื้นที่ที่ทำงานอยู่ พบก่อนเกิดเหตุมีปากเสียงกันจากความหึงหวงครูปลา เดินออกบ้านไปคุยโทรศัพท์ก่อนกลับมายิงที่ศีรษะ 2 นัด ใช้ปืนกดหัวลูกสาวครูปลา ยายเข้ามาห้ามจึงโดนยิง
วันนี้ (24 ก.ย.) จากกรณีที่จ่าทหารพรานหึงโหดยิงภรรยาและแม่ยายเสียชีวิต 2 ศพ เพื่อนลูกสาวภรรยาได้รับบาดเจ็บ ส่วนลูกสาวถูกปืนจ่อหัวแต่หนีรอดมาได้หวุดหวิด ในบ้านที่บ้านไร่เหนือ ต.บาโหย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ก่อนขับรถเก๋งหนีแต่พลิกคว่ำแล้วใช้ปืนจี้ชาวบ้านให้ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งที่ตัวเมืองสะบ้าย้อยนั้น จากการสอบสวนทราบว่า จ.ส.อ.พีระพัฒน์ หรือจ่าแอน กับ น.ส.จุฑามาศ หรือครูปลา คบหาอยู่กินกันได้ประมาณ 1 ปี แต่ยังไม่ได้แต่งงาน ก่อนเกิดเหตุ จ.ส.อ.พีระพัฒน์ ได้เดินทางมาหาครูปลา ที่บ้านพักและเกิดมีปากเสียงกันจากความหึงหวง ด้วยความโมโห จ.ส.อ.พีระพัฒน์ จึงใช้อาวุธปืนยิงทั้งครูปลาและแม่ที่อยู่ในบ้านเข้าที่ศีรษะคนละ 2 นัดเสียชีวิต
น.ส.สุรีรัตน์ ลูกสาวของครูปลา ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุนั่งอยู่ในบ้านด้วยกัน 4 คน และ จ.ส.อ.พีระพัฒน์ ได้สอบถามแม่ว่ามีคนใหม่หรือไม่ จากนั้น จ.ส.อ.พีระพัฒน์ ได้โทรศัพท์ไปหาชายอีกคนและได้เดินออกไปหน้าบ้าน สักพักได้เดินกลับเข้ามาและใช้อาวุธปืนยิงแม่ 2 นัดเข้าที่ศีรษะจนล้มลง และจับตนกดหัวลงพื้นเอาปืนจ่อหัว แต่ยายวิ่งเข้าห้าม จ.ส.อ.พีระพัฒน์ จึงได้ยิงยายอีก 2 นัด ตนดิ้นหลุดจึงวิ่งหนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิดทีแรกที่คิดว่าน่าจะไม่รอด ส่วนเพื่อนที่อยู่ในบ้านไม่รู่ว่าถูกยิงตอนไหน เหตุการณ์นี้ไม่ยอมให้อภัยจ่าแอนเด็ดขาด
ด้านป้าของครูปลา เล่าว่า ช่วงหัวค่ำเห็น จ.ส.อ.พีระพัฒน์ มาที่บ้านครูปลา และได้ยินเสียงครูปลาพูดว่ามาทำไมเราไม่ค่อยจะลงรอยกันแล้ว และได้ยินเสียงทะเลาะวิวาท แม่ของครูปลาที่อยู่บ้านติดกันจึงเข้าไปดูและเห็นจ่าแอน ได้ชักปืนออกมาจะยิงครูปลาจึงได้เข้าไปห้าม สุดท้ายก็ถูกยิงตายทั้งคู่
ด้านเพื่อนบ้านที่อยู่ตรงข้ามก็เล่าตรงกันว่าได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะวิวาทกันและมีเสียงปืนตามมา 6-7 นัด จึงวิ่งออกมาดูเห็นฝ่ายชายขับรถเก๋งออกไปอย่างรวดเร็ว
นายสิทธิโชค อุดทิพย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บาโหย เล่าว่า หลังเกิดเหตุ จ.ส.อ.พีระพัฒน์ได้ขับรถมาประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำที่หน้าวัดบาโหย ทีแรกชาวบ้านคิดว่าเป็นแค่รถพลิกคว่ำธรรมดา จึงพากันออกมาดู และเห็น จ.ส.อ.พีระพัฒน์ คลานออกมาจากรถ และได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงขู่ 1 นัด ชาวบ้านจึงรีบถอยห่าง จากนั้นจึงได้จี้บังคับวัยรุ่นคนหนึ่งให้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาส่งที่ตัวเมืองสะบ้าย้อย และระหว่างทางได้โยนอาวุธปืนเอ็ม 16 ทิ้งจึงได้ไปตามเก็บไว้ที่ป้อม ชรบ.
ส่วนเพื่อนครูของครูปลา ที่มีบ้านอยู่ตรงจุดที่รถเก๋งพลิกคว่ำก็บอกตรงกันว่า ได้ยินเสียงรถพลิกคว่ำจึงออกมาดู เห็นผู้ชายคลานออกมาจากรถและคล้ายกับคนเมา ตอนแรกชาวบ้านจะเข้าไปช่วยแต่ชายคนนี้ได้ยิงปืนขู่ 1 นัด ชาวบ้านจึงไม่กล้าเข้าไปและได้จี้รถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นที่ขับผ่านมาพาหลบหนีไป โดยก่อนหน้านี้ ครูปลาเป็นอดีตลูกจ้างและสอนอยู่ด้วยกันที่โรงเรียนบ้านบาโหย ก่อนที่จะย้ายเป็นสอนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านบาโหย และเป็นคนที่อัธยาศัยดีมากตั้งใจทำงานเป็นที่รักของเด็กๆ และเพื่อนครูด้วยกัน
ส่วนบรรยากาศที่วัดบาโหย มีญาติพี่น้องของครูปลา มาเตรียมสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพโดยจะนำศพครูปลา และแม่มาบำเพ็ญกุศลคู่กัน ซึ่งญาติต่างเสียใจ และไม่ให้อภัยผู้ก่อเหตุและเรียกร้องให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมโดยเร็ว
ตำรวจคาดว่า หลังก่อเหตุ จ.ส.อ.พีระพัฒน์น่าจะติดต่อให้มีคนมารับไปและเป็นไปได้ว่าอาจจะหลบหนีกลับภูมิลำเนาในพื้นที่ จ.ตรัง หรือไม่ก็อยู่ในพื้นที่ จ.ยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทำงานอยู่ โดยทางต้นสังกัดและเพื่อนสนิทพยายามติดต่ออยู่แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้