จนท.เข้าแจ้งความดำเนินคดีนักท่องเที่ยวลอบขี่เจ็ตสกีในอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม

ตรัง - อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง เผยภาพนักท่องเที่ยวลักลอบนำเจ็ตสกีมาขับขี่ในท้องทะเลบริเวณหาดยาว แหล่งอาศัยและหากินของพะยูน ด้านเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.กันตังแล้ว

นายณรงค์ คงเอียด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ได้รับรายงานว่า ในช่วงเวลา 13.30-14.00 น. ของวันที่ 20 กันยายน 2564 ปรากฏภาพกลุ่มนักท่องเที่ยวลักลอบนำเจ็ตสกี จำนวน 2-3 ลำ มาขับขี่วนไปมาในท้องทะเล ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม บริเวณหาดยาว หมู่ 6 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งถือเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19 (2) ข้อหาเก็บหา นำออกไปกระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตราย หรือกระทำให้เสื่อมสภาพ ซึ่งไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ปิโตรเลียม หรือทรัพยากรอื่น หรือกระทำการอื่นใดอันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม หน่วยหยงหลิง รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.กันตัง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม กล่าวว่า กรณีที่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวลักลอบนำเจ็ตสกีมาขับขี่บริเวณหาดยาวนั้น ในเบื้องต้นยังไม่ทราบผู้กระทำความผิดที่ชัดเจน และเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนเพื่อหาตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขอประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อด้วยว่า การกระทำที่คาดไม่ถึง หรือการกระทำด้วยความมุทะลุ หรือคึกคะนอง ในแหล่งท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติ หรือในที่อื่นๆ ใดของทางราชการจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้ ซึ่งบางครั้งทางอุทยานฯ ไม่สามารถที่จะประกาศให้ทุกคนได้รับทราบทั่วกันทั้งหมด แต่นักท่องเที่ยวเองต้องคำนึงถึง และต้องท่องเที่ยวด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากบริเวณหาดยาวที่นักท่องเที่ยวขับขี่เจ็ตสกีวนไปวนมานั้นอยู่ใกล้กับแหล่งหญ้าทะเลที่สำคัญของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง รวมทั้งยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพะยูน สัตว์อนุรักษ์ชื่อดังของ จ.ตรัง ฉะนั้น การกระทำดังกล่าวทำให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ จึงต้องนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย