ชุมพร - รองนายก อบต.โวยไม่ชอบมาพากล เกาะสมบัติรังนกพันล้านเกือบ 3 ปี เปิดประมูล 12 ครั้ง ยังไม่มีผู้สัมปทาน ร้องเรียนหลายหน่วยงานเกี่ยวข้องลงตรวจสอบ หวั่นถูกขโมยขายเกลี้ยง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นผู้เข้าประมูลครั้งต่อไป
นายประกิจ แข่งนัน รองนายก อบต.ปากคลอง อ.ปะทิว พร้อมด้วย นายมาโนช นามวงศ์ ส.อบต.หมู่ 5 ตำบลปากคลอง และแกนนำชาวบ้าน พาผู้สื่อข่าวลงเรือสำรวจเกาะรัง อ่าวทุ่งมหา แหล่งท่องเที่ยวดำนำชมปะการังขึ้นชื่อของจังหวัดชุมพร อยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร เป็นเกาะหินขนาดเล็กมีพื้นที่ราว 7 ไร่ ห่างจากฝั่งประมาณกว่า 7 กิโลเมตร เป็นเกาะรังนกนางแอ่นกินรังที่มีมูลค่าการสัมปทานนับพันล้านบาท แต่ช่วงเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ได้เปิดประมูลสัมปทานมาแล้ว 12 ครั้ง แต่ยังไม่มีผู้ประกอบการรายได้ยื่นประมูล และถูกกดราคาให้ต่ำลงมาเรื่อยๆ ก็ยังไม่มีผู้ยื่นซองประมูล
จึงเกรงว่าจะมีการฮั้วกันในหมู่ผู้ประกอบการ และช่วงปลอดการสัมปทานมาเกือบ 3 ปี อาจจะมีการขึ้นไปขโมยเก็บรังนกขายจนเกลี้ยงเกาะ และทำให้ผู้ประกอบการไม่มีความมั่นใจว่ารังนกจำนวนมากอาจจะถูกลักขโมยไปจนเกลี้ยงเกาะแล้ว และส่งผลกระทบต่อเงินจัดสรรรายได้ในการพัฒนาของท้องถิ่นที่หายไปปีละหลายสิบล้านบาท แม้จะร้องเรียนไปหลายหน่วยงานเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแต่กลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ
นายประกิจ แข่งนัน รองนายก อบต.ปากคลอง กล่าวว่า เกาะรัง เป็นเกาะรังนกนางแอ่นกินรังที่มีจำนวนมากที่สุดของ จ.ชุมพร ที่ผ่านมา มีการประมูลตามสัญญาสัมปทาน 5 ปี มีมูลค่าสูงถึงกว่า 800 ล้านบาท หลังหมดสัญญาสัมปทานตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบันผ่านมาเกือบ 3 ปี ได้มีการเปิดซองสัมปทานใหม่แล้ว 12 ครั้ง จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดเข้ายื่นประมูล และมีการกดราคากลางลดลงมาเรื่อยๆ จาก 800 ล้านบาท จนเหลือเพียง 130 ล้านบาท ก็ยังไม่มีผู้ยื่นประมูล ทำให้ช่วงเกือบ 3 ปี อบต.ปากคลอง ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ขาดรายได้จากเงินจัดสรรภาษีในการพัฒนาร่วม 100 ล้านบาท
รองนายก อบต.ปากคลอง กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาได้มีหนังสือร้องเรียนไปยังผู้ตรวจการแผ่นดิน รัฐสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยผ่านทางที่ปรึกษา และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด แต่ได้คำตอบที่ไม่ค่อยชัดเจนตามความเป็นจริง โดยเฉพาะช่วงที่ปลอดการประมูลการสัมปทานเกือบ 3 ปี ทาง อบต.ปากคลอง ต้องการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีความไม่ชอบมาพากลหรือไม่ที่ผ่านมาเกือบ 3 ปี เปิดประมูลมา 12 ครั้ง กลับไม่มีผู้ยื่นการประมูล จนมีการกดราคากลางต่ำลงเรื่อยๆ และในช่วงปลอดการสัมปทานเกือบ 3 ปี มีเพียงเฉพาะ อส.ที่ทางจังหวัดส่งลงไปดูแลเฝ้าเกาะรังนกดังกล่าวเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น โดยไม่มีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องรังนกจาก อบต.ปากคลอง ได้ลงไปเฝ้าเกาะด้วยแต่อย่างใด เมื่อร้องเรียนไปยังผู้เกี่ยวข้องไม่ได้รับความสนใจ อ้างเพียงว่ามีเจ้าหน้าที่ อส.และตำรวจ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเฝ้าดูแลอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่จาก อบต.แต่อย่างใด
“ตอนนี้ตนและทีมงานกำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อเดินทางไปยื่นร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้นำคณะลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะเหลือที่พึ่งสุดท้ายเพียงแห่งเดียว เนื่องจากที่ผ่านมาได้ร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแค่ตรวจสอบไปตามระเบียบ ดูจากเอกสารทางราชการเท่านั้น แต่ไม่ได้ลงพื้นที่ดูของจริงด้วยแต่อย่างใด และจะได้พิสูจน์ความจริงว่า เกาะรังนกที่ไม่มีผู้ยื่นสัมปทานมานานเกือบ 3 ปี ซึ่งความเป็นจริงรังนกจะต้องมีปริมาณเพิ่มขึ้น ว่ามีการสูญหายหรือถูกลักขโมยไปขายบ้างหรือไม่” รองนายก อบต.ปากคลอง กล่าว
ด้าน นายมาโนช นามวงศ์ ส.อบต.หมู่ 5 ตำบลปากคลอง กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปีที่ไม่มีผู้ยื่นประมูลสัมปทาน จะเป็นเกมหรือฮั้วกันหรืออย่างไรตนไม่ขอพูดถึง แต่ตนขอตั้งข้อสังเกตคือช่วงช่องว่างเกือบ 3 ปี รังนกบนเกาะรังที่มีมูลค่านับพันล้าน รังนกได้มีการลักขโมยบ้างหรือไม่ ถ้าไม่มีปริมาณรังนกจะเพิ่มมากขึ้น รังนกไม่ว่าจะถูกทำลายหรือเสียหายไปตามธรรมชาติแต่ร่องรอยก็จะต้องหลงเหลือให้เห็นอยู่ จึงขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ลงไปสำรวจตรวจรังนกในเกาะดังกล่าวนั้นจริงๆ เพื่อความมั่นใจแก่ผู้จะมายื่นประมูลสัมปทานในครั้งต่อไป ถ้าหากมีรังนกสูญหายต้องมีผู้รับผิดชอบเพราะช่วงเกือบ 3 ปี หากมีการเก็บขายตามที่มีสัมปทานมาจะมีมูลค่านับพันล้านบาท
“ผมมีแนวคิดที่จะเชิญชาวบ้านในพื้นที่ตำบลปากคลองทั้งหมดมีปรึกษาพูดคุยกัน ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับเรื่องนี้ เพราะเกาะรัง ซึ่งเป็นเกาะพันล้านเป็นสมบัติที่อยู่ในความดูแลรับผิดของตำบลปากคลอง แต่กลับไม่มีอำนาจใดๆ เลยเกี่ยวกับการประมูลสัมปทานรังนก หรือหากไม่มีผู้ใดยื่นประมูลสัมปทาน เสนอให้ดูระเบียบว่า อบต.ปากคลองซึ่งเป็นนิติบุคคลว่าจะเป็นผู้ประมูลเองได้หรือไม่ และเชิญชาวบ้านระดมหุ้นเพื่อทุกคนได้เป็นเจ้าของเกาะรังนกซึ่งเป็นสมบัติของชาวตำบลปากคลอง” นายมาโนช กล่าว
ด้าน นายมานิช อุบลกาญจน์ อดีตคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจัดเก็บภาษีรังนกนางแอ่น จ.ชุมพร กล่าวว่า ตนเป็นลูกทะเล มีความเชี่ยวชาญเรื่องการจัดเก็บรังนกบนเกาะกลางทะเล สามารถลงเกาะดูชนิดและปริมาณรังนกได้อย่างถูกต้อง ที่ผ่านมาตนได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการมา 1 สมัย 4 ปี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานและส่วนใหญ่จะมีข้าราชการได้รับเลือกเข้ามาเป็นกรรมการและเป็นโดยตำแหน่ง แต่หลังจากเป็นมา 1 สมัย ไม่มีการเสนอตนเข้าเป็นกรรมการอีก เพราะตนเป็นคนรู้มากรู้จริงเกี่ยวกับรังนก อะไรที่ไม่ชอบมาพากลก็จะไม่เล่นด้วย
โดยเฉพาะที่เกาะรังในพื้นที่ตำบลปากคลองแห่งนี้จะมีรังนกนางแอ่นมาที่สุด ที่ผ่านมาผู้สัมปทานตามสัญญา 5 ปี จะจัดเก็บรังนกตามกฎหมายได้ปีละ 3 รอบ หลังจากนั้นจะปล่อยให้นกได้ทำรังเลี้ยงลูกของมันเพื่อแพร่ขยายพันธุ์ โดยรอบแรกจะเก็บรังนำได้ประมาณ 1,000 กิโลกรัม รอบที่ 2 ประมาณ 800 กิโลกรัม และรอบที่ 3 จะเก็บได้ราวเกือบ 1,000 กิโลกรัม ราคาขายจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 50,000-100,000 บาทขึ้นไป เพื่อความโปร่งใส่ตนเห็นด้วยที่จะให้มีการลงไปตรวจสอบรังนกในเกาะรังว่ามีการลักขโมยหรือไม่
