กระบี่ - 2 ตายาย ไม่หวั่นโควิด-19 เดือน 10 ยังทำขนมลา ขนมพองขาย พร้อมฝึกลูกหลานสืบสานเทศกาลสารทเดือนสิบของชาวใต้ สร้างรายได้วันละกว่า 2 พันบาท
ที่บ้านเลขที่ 50 ม.5 ต.พรุเตียว อ.เขาพนม จ.กระบี่ มี 2 ตายาย ชื่อนายฟุ้ง และนางจรรยา ศรีเณร ทั้ง 2 อายุ 72 ปี ยึดอาชีพทำขนมลา ขนมพองขายในช่วงเทศกาลเดือนสิบ หรืองานบุญเดือนสิบสร้างรายได้ให้ 2 ตายาย อย่างงดงาม แม้จะอยู่ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ไม่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ ทั้ง 2 ยังได้ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลาน เพื่อสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีงานบุญชาวปักษ์ใต้ ให้อยู่คู่กับชาวปักษ์ใต้ตลอดไป
ตาฟุ้ง และนางจรรยา ศรีเณร ได้ใช้ภูมิปัญญาที่ได้สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น นำกระป๋องมาดัดแปลงใช้ในการเคาะขนมลา อย่างตั้งอกตั้งใจ และพิถีพิถัน ทำแผ่นขนมลาให้ออกมาสีสวย เพื่อส่งให้ลูกค้ามนพื้นที่ 2 ตำบล คือ ตำบลพรุเตียว และตำบลเขาดิน อำเภอเขาพนม ตามลูกค้าสั่งในแต่ละวัน โดยมีลูกหลานคอยผลัดเปลี่ยนมือคอยช่วยเหลือ
ซึ่งในแต่ละวัน 2 ตายายใช้แป้งในการทำขนมลา 6 กิโลกรัม ได้ขนมลา 21 ถุง ส่งขายลูกค้าตามออเดอร์ ถุงละ 100 บาท 1 ถุง มีขนมลา 20 แผ่น แผ่นละ 5 บาท โดย 2 ตายายมีรายได้จากการขายขนมลาวันไม่ต่ำกว่า 2 พันบาทเลยทีเดียว นอกจากนั้น ยังมีขนมพองไว้ขายคู่ขนมลา ถุงละ 40 บาท ซึ่งในช่วงเทศกาลสารทเดือนสิบ 2 ตายายมีรายได้จากการขายขนมพองและขนมลา ร่วม 4 หมื่นกว่าบาท ภายใน 1 เดือน ช่วงระว่างเดือนกันยายน-เดือนตุลาคม 64 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลสารทเดือน ที่ต้องทำขนมลาไหว้บรรพบุรุษของชาวปักษ์ใต้
ยายจรรยา กล่าวว่า ตนและสามีได้ทำขนมลาขายเป็นเวลา 40 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่สมัยหนุ่มๆสาวๆ จนทุกวันนี้ยังทำอยู่ เพราะเป็นอาชีพที่ทำแล้วสบายใจ ทำขนมให้คนอื่นกิน ให้พี่น้องลูกหลานได้นำไปไหว้บรรพบุรุษ หรือเป็นของฝากช่วงเทศกาลสารทเดือนสิบ ได้กินขนมลาที่อร่อย สด สะอาด ตามภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ได้รับจากบรรพบุรุษมา มีความสุขที่ได้ทำขนมขายทุกปี และคอยสอนลูกหลานให้มีความรู้สามารถทำขนมลา สืบต่อจากตนเอง เพราะสองตายาแก่แล้ว
สำหรับในปีนี้ไม่มีการจัดงานเทศกาลเดือนสิบ เพราะสถานการณ์โควิด-19 ระบาด แต่มีคนในท้องถิ่นยังหาซื้อขนมพองขนมลา ไปกราบไหว้บรรพบุรุษที่บ้าน ตามขนบธรรมเนียมประเพณีของพี่น้องชาวปักษ์ใต้