xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” ลงระนอง ประสาน ศบค.หาวัคซีนให้ธุรกิจเกี่ยวเนื่องประมง ดันเกาะพยามรับนักท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สมุยพลัส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ระนอง - รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่แก้ปัญหาชาวระนอง 3 เรื่อง พร้อมประสาน ศบค.จัดวัคซีนให้ธุรกิจต่อเนื่องการประมง แพปลา ดันเกาะพยาม รับนักท่องเที่ยวจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สมุยพลัส

วันนี้ (12 ก.ย.) ที่แพปลากิจไพศาล ตํ.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่จังหวัดระนอง เพื่อรับฟังปัญหาของคนในพื้นที่ โดยมีนายสมเกียรติ ศรีษะเนตร ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นายโชตินรินทร์ เกิดสม และนายสมจิตร์ เขียนด้วง รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พาณิชย์จังหวัดพร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายหลังติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่เขตตรวจราชการสํานักนายกรัฐมนตรี (กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน) หารือร่วมกับผู้ประกอบการแพปลาจังหวัดระนอง มีข้อสรุปจากการหารือร่วมกันระหว่างตน ในฐานะประธานเขตตรวจราชการอันดามันที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับจังหวัด ภาคเอกชน และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้ข้อสรุปทั้งหมด 3 ประเด็นสำคัญ


เรื่องที่หนึ่ง ปัญหาป่าชายเลนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองหัวเขียว และป่าคลองเกาะสุย ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง รวม 3 แปลง เนื้อที่ประมาณ 520 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดระนองได้รับอนุญาตเดิมจากกรมป่าไม้ และขณะนี้ใบอนุญาตหมดอายุนานแล้วทำให้ไม่สามารถต่ออายุการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวได้ ซึ่งพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณนี้เป็นที่ของกรมป่าไม้และได้มีการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอกชนเช่าทำธุรกิจทำแพปลามาเป็นระยะเวลานาน แต่ช่วงหลังหมดอายุสัญญาจึงมีการเรียกร้องให้สามารถต่ออายุสัญญาได้ เพราะพื้นที่นี้มี 520 ไร่ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของระนอง ได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะมีการโอนที่ของกรมป่าไม้ไปให้กรมธนารักษ์ และเมื่อกรมธนารักษ์เป็นเจ้าของพื้นที่ดินแล้วจะเปิดให้เอกชนและผู้ประกอบการที่ดำเนินการอยู่เดิม สามารถเช่าต่ออย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้พื้นที่บริเวณนี้ 520 ไร่ เป็นแหล่งขับเคลื่อนธุรกิจของระนองต่อไปได้ คาดว่าจะดำเนินการได้เสร็จสิ้นไตรมาสที่ 4 ของปี 65


เรื่องที่สอง กรณีวัคซีนจังหวัดระนอง มีวัคซีนสำหรับพี่น้องประชาชนชาวระนอง 190,000 คน ฉีดไปแล้ว 68% ประเด็นสำคัญคือผู้ประกอบการต่อเนื่องการประมงและเจ้าของโรงงานที่เป็นภาคการผลิตสำคัญสำหรับเศรษฐกิจระนองเศรษฐกิจภาคใต้ รวมถึงการส่งออกนั้นมีความสำคัญที่ต้องใช้แรงงานต่างด้าว ซึ่งตัวเลขแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายในระนองตอนนี้ประมาณ 40,000 คน ต้องการให้ฉีดวัคซีนทั้งสิ้น จึงมีการคัดกรองเฉพาะภาคธุรกิจและโรงงานที่มีความจำเป็นจริงๆ เช่น โรงงานผลิตอาหาร โรงงานผลิตสินค้าส่งออก เพื่อไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจระนองและประเทศและตัวเลขส่งออก จึงคัดออกมาจะมีโรงงาน 7 โรงงาน รวมทั้งแพปลาอีกจำนวน 250 แห่ง ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องใช้แรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย จำนวนประมาณ 6,400 คน (รวมกัน) จึงอยากให้ ศบค.ช่วยจัดสรรวัคซีนเร่งด่วนเพื่อให้เศรษฐกิจในส่วนนี้ขับเคลื่อนต่อไปได้ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีรับเรื่องในฐานะประธานเขตตรวจไปประสานกับ ศบค.และกระทรวงแรงงานต่อไป


เรื่องที่สาม เอกชนภาคการท่องเที่ยว เสนอว่าอยากให้เกาะพยาม จังหวัดระนอง เป็นจุดเชื่อมต่อของภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัส คือ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่ภูเก็ต 7 วันแล้วนอกจากจะไปเที่ยวที่พังงา กระบี่ ขอให้มาเกาะพยามได้ด้วย หรือนักท่องเที่ยวที่ไปลงที่สมุย ตามสมุยพลัส เมื่อครบตามกำหนดเวลาที่สามารถไปต่อได้ ขอให้ไปที่เกาะพยามได้ ซึ่งตนคิดว่าเป็นแนวความคิดที่ดีและรัฐบาลก็เปิดการส่งเสริมภาพรวมตามจุดต่างๆ ที่มีความพร้อม สำคัญคือประชากรชาวจังหวัดระนองจะต้องฉีดวัคซีนให้ครบ 70% ซึ่งไม่มากหลักพัน เพราะฉะนั้นตนจะเสนอ ศบค. ให้ต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น