ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คณะวิศวกรรมศาสตร์ จับมือคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) สร้างหลักสูตรร่วม สนับสนุนการเรียนการสอน 2 สาขา สอดรับเภสัชกรรมอุตสาหการ
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะเภสัชศาสตร์ ลงนามความร่วมมือจัดทำหลักสูตรร่วมระหว่างหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเภสัชกรรมอุตสาหการ และสาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมี รศ.ดร.ธนิต เฉลิมยานนท์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ และ รศ.ดร.ภก.นิมิตร วรกุล คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ ร่วมลงนาม ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา
รศ.ดร.ธนิต เฉลิมยานนท์ กล่าวว่า ทางคณะฯ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริม และสนับสนุนพัฒนาวิชาการ การจัดการเรียนการสอนที่เกี่ยวข้องสอดคล้องกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของภูมิภาคและประเทศ มีการจัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อพัฒนานักศึกษาของทั้งคณะเภสัชศาสตร์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ ให้มีความรู้ ทักษะ ความสามารถ สำเร็จการศึกษาไปปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับของสังคม ทั้งในระดับประเทศ และระดับสากล โดยทางคณะฯ สนับสนุนหลายสาขาวิชาด้วยกันในการทำหลักสูตรร่วมกัน นอกเหนือจากสาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรมแล้ว คณะวิศวกรรมศาสตร์ ยังมีสาขาวิชาวิศวกรรมการแพทย์ที่สามารถส่งเสริม และสนับสนุนพัฒนาองค์ความรู้จากทางวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อไปประยุกต์ใช้ทำงานร่วมกัน ต่อยอดงานวิจัยทั้งนักศึกษาระดับปริญญาตรี และระดับบัณฑิตศึกษา โดยที่ผ่านมา ได้คุย และหารือกันเพื่อให้สร้างประโยชน์กับนักศึกษาของทั้ง 2 คณะฯ เพื่อเป็นไปตามพันธกิจของหน่วยงานทั้ง 2 ตามสมควรหรือที่เห็นชอบร่วมกันได้ จึงได้จัดทำร่างบันทึกความร่วมมือทางวิชาการระหว่างทั้ง 2 หลักสูตร เพื่อใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการหลักสูตรร่วมดังกล่าวต่อไป
ด้าน รศ.ดร.ภก.นิมิตร วรกุล กล่าวว่า คณะเภสัชฯ ต้องการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ และขีดความสามารถของนักศึกษาให้มีศาสตร์ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากเภสัชศาสตร์ โดยได้รับความร่วมมืออันดีจากทางวิศวะฯ เพื่อพัฒนางานด้านวิชาการ และองค์ความรู้นำไปสู่งานวิจัย เพื่อสร้างฐานความรู้ที่มีคุณค่า สามารถประยุกต์ และพัฒนาวิทยาการที่เหมาะสม รวมทั้งให้เกิดการเรียนรู้ และต่อยอดได้อีก ทั้งต้องการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อให้เกิดประโยชน์เชิงพาณิชย์ และสาธารณะ ตลอดจนเกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยใช้ทรัพยากรและเครือข่ายวิจัยจากทั้งสองฝ่ายอย่างมีศักยภาพ ในอนาคตอาจจะขยายกว้างไปยังสาขาวิชาอื่นๆ ทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ และสังคมศาสตร์อีกด้วย