xs
xsm
sm
md
lg

"ตายก็เผา เจ็บก็เข้าโรงพยาบาล แล้วรอรับเงินเยียวยา" สภาพคนชายแดนใต้ในวิกฤตศรัทธา “รัฐบาลประยุทธ์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ : จุดคบไฟใต้ / โดย… ไชยยงค์ มณีพิลึก

ความจริงที่ “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ต้องยอมรับคือ วันนี้งานการข่าวยังดีไม่พอ แม้รู้ว่าเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา “บีอาร์เอ็น” มีแผนก่อความไม่สงบแน่นอน แต่โฟกัสพื้นที่และเป้าหมายไม่ได้ การป้องกันจึงเป็นไปแบบเหวี่ยงแหให้พอเห็นว่าเป็นน้ำ ส่วนจะมีปลาหรือไม่ เป็นเรื่องที่ไม่ต้องไปรู้

จึงอย่าได้แปลกใจที่เกิดการก่อวินาศกรรมต่อขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษที่เพิ่งเปิดเดินรถเที่ยวแรก เพื่อขนสินค้าและผลไม้ช่วยเหลือชาวสวนชายแดนใต้ อาทิ ลองกอง มังคุด พังยับไป 4-5 ตู้ ณ บริเวณบ้านป่าไผ่ที่ห่างจากสถานีรถไฟตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพียงประมาณ 1 กิโลเมตร ถือว่ายังโชคดีที่ไม่มีใครเจ็บและตาย

หลังเกิดเหตุวันเดียวตัวแทนบีอาร์เอ็นที่ยังไม่รู้ว่าของจริงหรือปลอม เขาได้ออกมาปฏิเสธการกระทำดังกล่าวว่าไม่เกี่ยวกับบีอาร์เอ็น พร้อมโยนบาปให้เป็นฝีมือของ “กองกำลังใต้ดิน” ซี่งเป็นแผนการของ “เผด็จการสยาม” นั่นย่อมหมายความเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่รัฐสร้างสถานการณ์ขึ้นมาหรือรู้เห็นเป็นใจ

เป็นน่าสังเกตว่าในระยะหลังตั้งแต่บีอาร์เอ็นเปิดหน้าเปิดตัวทั้งในพื้นที่และในเวทีโลก พร้อมมีการสื่อสารกับคนในชายแดนใต้มากขึ้น นี่ก็อย่าได้แปลใจที่เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรที่จะกระทบต่อภาพลักษณ์ บีอาร์เอ็นเป็นต้องส่งตัวแทนออกมาปฏิเสธและโบ้ยความผิดให้เจ้าหน้าที่รัฐว่าเป็นผู้สร้างสถานการณ์ไว้ก่อน

มีคำถามที่ต้องการสื่อสารกับบีอาร์เอ็นคือ การบึ้มขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษดังกล่าว ถ้าไม่ใช่ฝีมือแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดนแล้ว จะเป็นฝีมือใครได้อีก กองกำลังใต้ดินที่ว่าจะสังกัดขบวนการไหนได้ ประเด็นนี้ บีอาร์เอ็นต้องนำหลักฐานมาเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้

นอกจากนี้บีอาร์เอ็นต้องมีคำตอบที่ชัดเจนด้วยว่า ณ วันนี้ในชายแดนใต้ยังมีขบวนการใต้ดินอื่นๆ ทำหน้าที่รับงานจากผู้ว่าจ้างเพื่อสร้างสถานการณ์อยู่ด้วยหรือ เพราะการใช้วาทกรรมจอมปลอมสร้างความคลุมเครือเพื่อหลอกลวงสังคมและคนในพื้นที่ให้เข้าใจผิด โดยหวังให้เกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐแบบเดิมๆ คนเขารู้ทันหมดแล้ว

แม้แต่ภาคประชาสังคมใต้ปีกการเมืองบีอาร์เอ็นก็เช่นเดียวกัน ประเด็นบึ้มรถไฟเที่ยวพิเศษนี้ ถ้ามีหลักฐานว่ามีหน่วยงานรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องนำมาเปิดโปงให้เห็นกันจะๆ ไม่ใช่มัวแต่ทำไอโอไปวันๆ เพื่อไม่ให้บีอาร์เอ็นตกเป็นจำเลยว่าได้ซ้ำเติมได้ประชาชนช่วงที่กำลังกับวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

ที่พูดได้เต็มปากว่าเป็นการซ้ำเติมความทุกข์ยากให้ชาวชายแดนใต้ เนื่องจากทั้ง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ภายใต้การนำของ “แม่ทัพภาคที่ 4” และ ศอ.บต.ภายใต้การนำของ “เลขาธิการ ศอ.บต.” ได้ช่วยกันจัดทำโครงการรับซื้อผลผลิตในพื้นที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากการล็อกดาวน์ แล้วต้องการส่งไปกระจายสู่ตลาดในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในบ่ายวันเกิดบึ้มขบวนรถไฟดังกล่าว ช่วงเช้าวันเดียวกันมีข่าวลอบวางระเบิดซีโฟร์หวังสังหารกำนัน ต.สามัคคี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เกิดขึ้นด้วย ประเด็นนี้บีอาร์เอ็นพอจะปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เพราะมีเรื่องขัดแย้งทางการเมืองและส่วนตัวให้สังคมคิดได้ด้วย

ถึงตรงนี้มีเรื่องที่ต้องการสื่อสารกับคนในพื้นที่ว่า ที่ผ่านมาที่เชื่อได้ว่าบีอาร์เอ็นก่อวินาศกรรมต่อระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ เสาไฟฟ้า ถนนหนทาง ฯลฯ ซึ่งล้วนมีผลกระทบต่อการสร้างรายได้และวิถีการดำเนินชีวิต พวกท่านยังชื่นชอบหรือพอใจขบวนการบีอาร์เอ็นอยู่อีกหรือไม่

อีกทั้งอยากสื่อสารถึงกลุ่มประเทศโลกมุสลิม โดยเฉพาะกับองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) ว่า การที่บีอาร์เอ็นปฏิบัติการซ้ำเติมความทุกข์ยากของคนในชายแดนใต้ดังกล่าว ซึ่งแน่นอนว่าประมาณ 90% เป็นพี่น้อง สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วหรือไม่ หรือควรที่จะมีการประณามการกระทำของขบวนการบีอาร์เอ็นหรือไม่

สำหรับองค์กรต่างประเทศที่ให้การสนับสนุนบีอาร์เอ็น โดยเฉพาะกับ “เจนีวาคอลล์” และ “คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC)” ก็ต้องการสื่อสารไปพร้อมๆ กันด้วยคราวนี้ว่า ปฏิบัติการซ้ำเติมความทุกข์ยากให้คนไทยด้วยกันของบีอาร์เอ็นดังกล่าว ถึงเวลานี้แล้วจะยังสนับสนุนให้การบีอาร์เอ็นต่อไปอีกหรือไม่

หากมองย้อนกลับสิ่งที่ไอซีอาร์ซีจำเป็นต้องสื่อสารกับคนชายแดนใต้ให้ชัดเจนคือ มีเหตุผลอะไรที่ให้การสนับสนุนบีอาร์เอ็น ทั้งที่รู้ว่าคือการขบวนการแบ่งแยกดินแดนและก่อการร้ายต่อคนไทย ที่สำคัญมีความประสงค์ใดที่ยังดิ้นรนขอให้ทางการไทยไฟเขียวให้ได้เข้าพบ “นักโทษความมั่นคง” ที่ชายแดนใต้

ในส่วนของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กรณีรถไฟขบวนพิเศษถูกก่อวินาศกรรมครั้งนี้ ควรจะใช้สถานการณ์นี้ สื่อสารกับสังคมและโดยเฉพาะคนในชายแดนใต้ให้เห็นความเลวร้ายของบีอาร์เอ็นอย่างไร น่าเสียดายที่นอกจากไม่รู้หวันแล้ว ยังปล่อยให้ศัตรูสร้างวาทกรรมโฆษณาชวนเชื่อโต้กลับเสียบอบซ้ำอีกด้วย

วันนี้สถานการณ์ชายแดนใต้ไม่ได้หยุดนิ่ง แต่ยังจะมีก่อเหตุต่อเนื่อง โดยเฉพาะห้วง ก.ย.-ต.ค.ที่เป็นรอยต่อการโยกย้ายข้าราชการ รวมทั้งใกล้วันสัญลักษณ์การตายหมู่กรณี “ตากใบ” ขนาดช่วงไม่มีช่องว่าง กองกำลังไม่ประมาท บีอาร์เอ็นยังฉวยโอกาสก่อเหตุได้ ถ้าเกิดการช่วงโยกย้ายกลายเป็นช่องว่างใหญ่จะเกิดอะไรขึ้น

วันนี้พิสูจน์แล้วว่าไฟใต้จะดีขึ้นหรือแย่ลงไม่เกี่ยวกับ “ส่วนกลาง” โดยเฉพาะกับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ไม่อย่างนั้นคงไม่ยกตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้คนนอกอย่าง “พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม” แถมยังพูดหน้าตาเฉยว่าจะปลอบใจลูกหม้อที่พลาดตำแหน่งด้วยการให้ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ ระดับ 11

หรือการที่ “ท่านผู้นำ” คิดง่าย ทำง่าย อย่างนี้กระมังที่ทำให้หน่วยงานที่กำหนดยุทธศาสตร์ความมั่นคงชาติถูกมองว่าโดนบอนไซมานาน หรือถูกนำไปสร้างความมั่นคงให้เก้าอี้นายกฯ มากกว่าความมั่นคงของชาติ

และเพราะการคิดง่าย ทำง่าย อย่างนี้กระมังที่ พล.อ.ประยุทธ์นั่งเป็นนายกฯ ต่อเนื่องย่างเข้าปีที่ 8 แต่ไฟใต้กลับไม่เคยมีทีท่าจะมอดดับ ทั้งที่ถือเป็นผู้มีอำนาจเต็มในมืออีกคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทยเสียด้วย

สรุปสั้นๆ ณ วันนี้ไฟใต้จะดีขึ้นหรือแย่ลงถ้า “ท่านผู้นำ” มีนโยบายที่ตอบโจทย์การดับไฟใต้และรู้จักใช้แม่ทัพนายกอง สถานการณ์ต่างๆ ก็จะทุเลา แต่ถ้านโยบายไม่ตอบโจทย์ แถมแม่ทัพนายกองก็เอาแต่ดีครับนาย ได้ครับผม เหมาะสมครับท่าน

ประชาชนตาดำๆ อย่างเราๆ ท่านๆ คงต้องยึดหนักตัวใครตัวมัน ตายก็เผา เจ็บก็เข้าโรงพยาบาล แล้วรอรับเงินเยียวยากันต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น