ยะลา - กลุ่มวิสาหกิจชุมชนจับมือผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน ทำทุเรียนแปรรูปแช่แข็งได้ผลตอบรับดี สร้างรายได้เกษตรกรจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อเนื่อง ขณะที่ ศอ.บต.พอใจการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เห็นผลเป็นรูปธรรม
พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ลงพื้นที่ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจการแปรรูปและตลาดทุเรียน กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งมีการรับซื้อ และแปรรูปทุเรียนเพื่อส่งออกประเทศจีนเป็นปีแรก (2564) สามารถยกระดับตลาดทุเรียนในพื้นที่ให้มีราคาสูงขึ้น โดยทุเรียนหมอนทองเกรด A-B รับซื้อในราคากิโลกรัมละ 85 บาท ตกเกรด 55 บาท และทุเรียนมีรูราคา 35 บาท
พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีแรกในการเห็นความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมของการแปรรูปทุเรียน โดยเฉพาะการเกิดโรงงานแปรรูปอีกโรงงานหนึ่งจากคนในพื้นที่ที่เป็นเกษตรกรโดยแท้จริง อย่างศูนย์บ่มเพาะธุรกิจการแปรรูปและตลาดทุเรียน สามารถยกระดับตลาดทุเรียนในพื้นที่ให้ก้าวหน้าไปอีกระดับหนึ่ง โดยแปรรูปทุเรียนตกเกรด ทุเรียนมีรู มีหนอน แบ่งแยกเนื้อทุเรียนเพื่อแช่แข็งส่งออกให้มีราคา ส่งผลให้ทุเรียนตกเกรดที่เคยไม่ได้ราคา สามารถมีมูลค่าได้ทุกเม็ด โรงงานนี้ถือเป็นผลงานของรัฐบาลที่ให้การสนับสนุนมาตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา สามารถสร้างรายได้แก่เกษตรกรทุเรียนในพื้นที่ และประชาชนในละแวกเฉลี่ยวันละ 500-600 บาท อย่างไรก็ตาม การเข้าเยี่ยมโรงงานในวันนี้ เพื่อยกระดับให้ศูนย์บ่มเพาะฯ แห่งนี้ สามารถดำเนินงานได้ครบวงจร นอกจากนี้ยังฝากถึงเกษตรกรในพื้นที่ว่า อาชีพเกษตรจะยั่งยืนและมั่นคงได้หากเกษตรกรเป็นเกษตรกรยุคใหม่ มีความรู้ สามารถสร้างมูลค่าผลผลิตให้มีราคา และเป็นที่ต้องการของตลาดได้
ด้านนางเพ็ณนุรัต โพธิโพ้น ผู้จัดการวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้รับซื้อผลผลิตทางการเกษตร กล่าวว่า โรงงานมีการจัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2563 ภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพมูลค่าสินค้าเกษตร โครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน สร้างโรงงานแปรรูปผลผลิตทุเรียนในรูปแบบ Freeze dried เพื่อส่งออก และส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าของผลผลิตทุเรียน และผลิตภัณฑ์แปรรูป โดยร่วมกับเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ 22 กลุ่ม ศูนย์คัดแยก 17 จุด และมีแปลงทุเรียนแปลงใหญ่ 19 แปลง เป็นเครือข่ายในการส่งทุเรียนมาจำหน่าย นอกจากนี้ สามารถสร้างงาน และรายได้ให้แก่คนในพื้นที่ โดยส่วนหนึ่งเป็นพ่อค้าคนกลางรับซื้อทุเรียนใน 5 จังหวัดมาส่งโรงงาน อีกส่วนหนึ่งเข้ามาทำงานในโรงงาน สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยวันละ 600 บาท อย่างไรก็ตาม สำหรับเกษตรกรที่ประสงค์จะจำหน่ายทุเรียนพันธุ์หมอนทอง สามารถเข้ามาส่งจำหน่ายที่โรงงานได้ เนื่องจากโรงงานให้ราคามากกว่าท้องตลาด 3-5 บาท อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งโรงงานเป็นส่วนหนึ่งในการประกันราคาแก่เกษตรกรทุเรียนได้ว่าราคาทุเรียนจะไม่ตกต่ำถึงขีดสุด เนื่องจากโรงงานสามารถแปรรูปเพื่อจำหน่าย และส่งออกได้
ขณะที่ นายจำนงค์ เพชรอนันต์ เกษตรจังหวัดยะลา กล่าวว่า สำหรับทุเรียนถือว่าเป็นสินค้าทางการเกษตรหลักของพี่น้องประชาชนใน จ.ยะลา ซึ่งมีพื้นที่ปลูกในปีนี้ประมาณ 82,000 กว่าไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ให้ผลผลิตแล้วประมาณ 6 หมื่นกว่าไร่ และคาดการณ์ว่าในอนาคตจะมีพื้นที่ปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้นเกือบ 1 แสนไร่ ซึ่งก็จะทำให้ผลผลิตในอนาคตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากพื้นที่ จ.ยะลา มีความเหมาะสมในการปลูกทุเรียน เพราะเป็นที่เชิงเขา อีกทั้งสภาพอากาศที่ดี ทำให้ทุเรียนของ จ.ยะลานั้น มีผลผลิตที่ดี และมีคุณภาพ