กระบี่ - เวทีประชุมแก้ปัญหาความขัดแย้งท่าเรือเฟอร์รี่ บ้านคลองทรายดินแดงน้อย ล่ม ชาวบ้านวอล์กเอาต์ออกจากที่ประชุม รับไม่ได้กับคำชี้แจงการจัดเก็บรายได้ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ด้านปลัดอำเภอ ยืนยัน ยังเดินหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความโปร่งใส
กรณีชาวบ้านคลองทรายดินแดงน้อย ม.6 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ประมาณ 20 คน นำโดย นายสมบูรณ์ อ่าวน้ำ ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่ท่าเรือเฟอร์รี่ ซึ่งเป็นท่าเรือโดยสารจากจังหวัดกระบี่ ไป อ.เกาะยาว จ.พังงา เพื่อเรียกร้องให้ทาง นายสุชาติ รวดเร็ว ผญบ.ม.6 บ้านคลองทรายดินแดงน้อย ออกมาชี้แจ้งการบริหารจัดการท่าเรือบ้านคลองทราย หลังพบว่ามีการจัดตั้งกลุ่มขึ้นมาจัดเก็บรายได้จากท่าเทียบเรือและการใช้ประโยชน์บริเวณท่าเรือปีละหลายแสนบาท แต่ไม่รู้ผลประโยชน์ตกไปอยู่กับใคร หลังเคยมีการยื่นหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาตรวจสอบแต่เรื่องเงียบหายไป เบื้องต้น ทางนายสุมิตร รักโอ่ กำนัน ต.หนองทะเล ได้นัดประชุมชาวบ้านและบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกร่วมกัน และได้นัดประชุมกันในวันนี้ (20 ส.ค.)
ความคืบหน้า เวลา 10.30 น.วันนี้ (20 ส.ค.) น.ส.ธิฌาพร คงเหมือน ปลัดอำเภอเมือง จ.กระบี่ ทำหน้าที่ปลัดประจำตำบลหนองทะเล ได้รับมอบหมายจาก นายชัยวุฒิ บัวทอง นายอำเภอเมืองกระบี่ ทำหน้าที่เป็นคนกลางในการรับฟังปัญหาเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา โดยมีชาวบ้าน และบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกว่า 40 คน เบื้องต้น ทางปลัดอำเภอได้ชี้แจ้งวัตถุประสงค์ของการจัดประชุมและห้ามไม่ให้มีการพูดจาโต้เถียงหรือใช้วาจาที่ไม่สุภาพในที่ประชุม พร้อมกับเปิดโอกาสให้นายสุชาติ รวดเร็ว ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 และนายอุดร บุตรหลี สาวัตรกำนัน ต.หนองทะเล และอดีต ส.อบต.ม.6 ชี้แจงตามข้อเรียกร้องของชาวบ้าน
ขณะที่นายอุดร บุตรหลี ได้ชี้แจงถึงการเก็บจัดเก็บรายได้จากท่าเทียบเรือ ซึ่งนอกจากการเก็บประจำเดือนเป็นรายเดือนเดือนละ 8,000 บาท ส่วนหนึ่งนำไปมอบให้มัสยิด และเป็นทุนการศึกษาให้เด็กในหมู่บ้านแล้ว ยังเก็บจากรถที่ขึ้นลงจากเรืออีกคันละ 10 บาท ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ และลุกขึ้นค้านทันที พร้อมกับตะโกนว่า “โกหก” และขอให้นายอุดร แสดงหลักฐานและเดินออกจากที่ประชุมทันที ทำให้การประชุมต้องยุติลงในเวลาอันรวดเร็ว ไม่ถึง 20 นาที
นายธีร์วรา เริงสมุทร อดีตผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ที่ผ่านมาท่าเรือเฟอร์รี่แห่งนี้มีการบริหารจัดการเก็บค่าจอดเรือ และการใช้ประโยชน์ โดยมีผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบันเป็นประธาน ซึ่งชาวบ้านไม่รู้เลยว่าเงินที่เก็บได้ไปเข้ากระเป๋าใคร ทางชาวบ้านเองตรวจสอบไม่ได้ จึงได้รวมตัวกันเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ เพราะที่ผ่านมาได้มีการทำหนังสือไปยังหลายหน่วยงานแต่เรื่องยังเงียบ และสิ่งที่ชาวบ้านรับไม่ได้ในการชี้แจงในวันนี้จนต้องเดินออกจากที่ประชุม เนื่องจากรับไม่ได้กับข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือการเก็บค่ารถที่ขึ้นลงเรือ ทางผู้ชี้แจงบอกว่าเก็บคันละ 10-20 บาท แต่ในข้อเท็จจริงตามที่มีเอกสารอ้างอิงเก็บตั้งแต่คันละ 10 บาท ถึง 100 บาทตามแต่ชนิดของรถ
ด้าน น.ส.ธิฌาพร คงเหมือน ปลัดอำเภอเมือง จ.กระบี่ ทำหน้าที่ปลัดประจำตำบลหนองทะเล กล่าวว่า ถึงแม้ว่าเวทีประชุมในวันนี้ต้องยุติลงกะทันหัน เนื่องจากชาวบ้านเดินออกจากที่ประชุม แต่อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบข้อเท็จจริงจะต้องมีการดำเนินการต่อไป เนื่องจากก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนผลจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
