xs
xsm
sm
md
lg

สตูลลงดาบผู้หลบหนีการกักตัว หลังพบคลัสเตอร์ใหม่ “มัรกัสสตูล”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สตูล - สตูลใช้ยาแรงเข้าแจ้งความดำเนินคดีลงโทษผู้หลบหนีการกักตัวจากเชื้อโควิด-19 หลังพบคลัสเตอร์ใหม่ “มัรกัสสตูล” ขีดวงตรวจเชื้อเจอผลบวกเพียบ ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล วางนโยบาย 3 มาตรการควบคุมเชิงรุก

วันนี้ (19 ส.ค.) จังหวัดสตูล รีบตีวงล้อมในการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ภายในมัรกัส หมู่ที่ 2 ต.ควนสตอ อ.ควนโดน มีการรวมตัวกันมากกว่า 20 คนเพื่อทำกิจกรรมทางด้านศาสนา

ดังนั้น นายพีรพัฒน์ เงินเจริญ นายอำเภอควนโดน จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ฝ่ายปกครอง รวมทั้งสาธารณสุขอำเภอ เข้าตรวจสอบและคัดกรองโรคเบื้องต้น พบผลการตรวจเป็นบวก จำนวน 7 คน และยังพบว่าขณะมีการรวมตัวกันไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย อีกทั้งยังใช้แก้วน้ำดื่มอันเดียวกันด้วย จึงอาศัยอำนาจตามคำสั่งจังหวัดและพระราชบัญญัติควบคุมโรค ขอกักทุกคนจำนวน 30 คน (มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่) ไว้ทั้งหมด เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา

แต่กลับพบว่าขณะมีการขอความร่วมมือให้กักตัว ได้มีคนหลบหนีออกไปจากจุดกักตัวจำนวน 2 คน โดยไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทำให้ทางอำเภอควนโดนมอบหมายให้ปลัดอำเภอเข้าแจ้งความดำเนินคดี ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดและพระราชบัญญัติควบคุมโรค


จากนั้นทางอำเภอควนโดนได้เปิดมาตรการเชิงรุกคัดกรองโรคทุกครัวเรือนในชุมชนรอบเขตมัรกัส เพื่อกระชับพื้นที่การแพร่ระบาดไม่ให้ขยายวงกว้าง พร้อมประกาศล็อกดาวน์ชุมชนรอบเขตมัรกัสทั้งหมดให้เป็นเขตควบคุมโรค โดยจากการตรวจเชิงรุก จำนวน 40 ราย พบผลบวก 19 ราย

ทั้งนี้ นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล นายแพทย์สาธารณสุขในอำเภอเมืองและอำเภอควนโดน ได้ลงติดตามการคัดกรองโรคในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด หลังพบว่าผู้ที่หลบหนี จำนวน 2 คนเข้าไปในพื้นที่ของอำเภอเมืองสตูล จากนั้นได้สั่งการให้มีการขีดวงล้อมเพื่อทำการควบคุมโรคด่วน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลได้ให้นโยบายการควบคุมการแพร่ระบาดจากมัรกัสในครั้งนี้ไว้ 3 ระดับคือ

1.ล็อกพื้นที่ชุมชนรอบเขตมัรกัส แล้วทำการคัดกรองโรค 2.เร่งสืบสวนโรคจุดเชื่อมโยงจากมัรกัสไปยังพื้นที่อื่นที่เชื่อว่าจะมีการคลุกคลี โดยเฉพาะตามร้านค้าร้านน้ำชาในพื้นที่ตำบลฉลุง และ 3.ขอความร่วมมือหยุดการรวมตัวในการทำกิจกรรมด้านศาสนาในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรค โดยให้ยึดคำสั่งของจุฬาราชมนตรีเป็นหลัก หากพบการดื้อดึงให้ใช้มาตรการทางด้านกฎหมายเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค










กำลังโหลดความคิดเห็น