xs
xsm
sm
md
lg

ปัตตานีติดเชื้อรายใหม่ 195 เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ผู้นำศาสนารุดฉีดวัคซีนสร้างความเชื่อมั่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปัตตานี - จ.ปัตตานีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 195 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย เร่งจัดฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในวันที่ 2 ด้านรองจุฬาราชมนตรี และผู้นำศาสนารุดฉีดวัคซีนสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยังคงเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม แม้ว่าผู้ติดเชื้อจะลดลง โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อของวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 195 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ปัจจุบันมียอดผู้ป่วยสะสม 13,244 ราย รักษาหาย 9,282 ราย และเสียชีวิตสะสม 177 ราย

สำหรับช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าอัตราผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนลดลง ซึ่งอยู่ในอัตรารายวันๆ ละ 200 กว่าคน และบางวัน 100 กว่าคน เช่นเดียวกับผู้เสียชีวิตก็ลดลงวันละ 1-2 ราย แต่ยังคงวางใจไม่ได้ เนื่องจากยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทุกวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงมีการตรวจเชื้อเชิงรุก ควบคู่กับการเร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ กลุ่มพิการ ผู้ป่วยติดเตียง หญิงตั้งท้อง 12 สัปดาห์ขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง โดยมีการฉีดวัคซีนทั้งแบบฉีดที่ศูนย์ฉีดตามอำเภอต่างๆ ฉีดตามชุมชน และฉีดตามบ้าน


โดยบรรยากาศในวันที่ 2 ของการมารับวัคซีนไฟเซอร์ ภายหลังจากโรงพยาบาลปัตตานี ได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวปัตตานีที่เป็นผู้ที่อยู่ใน 4 กลุ่ม ทั้งเด็กอายุ 12-18 ปี เฉพาะที่เป็น 7 กลุ่มโรคเสี่ยงเท่านั้น ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป เปิดให้วอล์กอินฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ตั้งแต่วันที่ 16-20 ส.ค.2564 พบว่า วันนี้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวยังทยอยเดินทางมารับวัคซีนไฟเซอร์กันอย่างคึกคัก ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ จะทยอยจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มเติมให้อีก

ขณะที่ในส่วนของบุคลากรด่านหน้า ตอนนี้ส่วนหนึ่งได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว และยังมีอีกบางส่วนที่ยังไม่พร้อมหรือติดภารกิจ ซึ่งทางโรงพยาบาลจะจัดสรร และเร่งฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคลากรด่านหน้า โดยคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะฉีดให้ได้ครบทุกคน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของผู้ที่ได้รับวัคซีนใน จ.ปัตตานี โดยเข็มที่ 1 มีจำนวน 145,916 คน เข็มที่ 2 มีจำนวน 45,216 คน และเข็มที่ 3 มีจำนวน 6,931 คน ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าประชาชนมีการตื่นตัวมารับวัคซีนเพิ่มขึ้น


ส่วนบรรยากาศที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ว่าที่ ร.ต.ตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย นายแวดือราแม มะมิงจิ รองจุฬาราชมนตรี และประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแพทย์ และผู้ที่มาฉีดวัคซีน โดยบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลหนองจิก สสจ.หนองจิก และ อสม.ได้บริการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้ผู้นำศาสนา โต๊ะอิหม่าม บุคลากรสำนักงานคณะกรรมการอิสลาม สมาชิกภายในครอบครัว อีกทั้งพี่น้องประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านสำนักงานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี จำนวนกว่า 300 คน เข้ารับวัคซีนเป็นครั้งแรก

ซึ่งการให้ผู้นำทางศาสนามารับวัคซีนในครั้งนี้ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน พร้อมสร้างความมั่นใจให้สาธารณชนว่าวัคซีนปลอดภัย ไม่อันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนจำนวนมากไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของวัคซีน เนื่องจากบนโลกโซเชียล หรือแม้กระทั่งการกระจายข่าวปากต่อปาก เผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีน เช่น อันตรายจากผลข้างเคียงของวัคซีน ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในความปลอดภัยของวัคซีน นอกจากนี้ เพื่อให้ผู้นำศาสนาได้สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการรับวัคซีน ตามประกาศสำนักจุฬาราชมนตรี การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยพบว่าไม่มีสิ่งต้องห้ามตามหลักการศาสนาอิสลาม


ว่าที่ ร.ต.ตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับผู้นำศาสนา โต๊ะอิหม่าม และครอบครัวที่เดินทางมาเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดี น่ายกย่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนหันมาฉีดวัคซีนกัน ซึ่งมั่นใจว่าวันนี้หากได้เผยแพร่ให้ประชาชนได้รับรู้ รับทราบจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นมากขึ้น อีกทั้งสถานที่นี้เมื่อทุกคนเข้ามาจะรู้สึกมีความเชื่อมั่นต่อสถานที่ เชื่อมั่นต่อผู้นำศาสนาอีกด้วย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เผยตอนท้ายด้วยว่า กลุ่มเป้าหมายที่เราได้เน้นย้ำคือกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป เป็นกลุ่มที่จะต้องเน้นย้ำเป็นกรณีพิเศษที่ต้องมารับวัคซีน เนื่องจากว่ากลุ่มดังกล่าวเมื่อติดเชื้อแล้วจะมีอัตราการเสียชีวิตสูงมากใน จ.ปัตตานี จึงมีความจำเป็นขอเชิญชวนกลุ่มนี้เร่งเข้ามารับวัคซีนโดยเร็ว






กำลังโหลดความคิดเห็น