xs
xsm
sm
md
lg

“บังหลี” ฆาตกรฆ่าโหดแหม่มสวิส สารภาพนำเงิน 300 บาทที่ค้นได้จากกระเป๋าเป้นักท่องเที่ยวไปซื้อยาเสพติด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “บังหลี” ฆาตกรฆ่าโหดแหม่มชาวสวิส ยอมรับนำเงินที่ได้จากการค้นในกระเป๋าเป้นักท่องเที่ยวหลังกดน้ำจนเสียชีวิต ไปซื้อยาเสพติดมาเสพกับเพื่อน


เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (8 ส.ค.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.รวมถึงเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวปิดคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวสวิตเซอร์แลนด์ นางนิโคล ซาเว่น ไวครอป อายุ 57 ปี ซึ่งมีคนพบศพเมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณน้ำตกโตนอ่าวยน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต

พล.ต.ต.นันทเดช ย้อนนวล รอง ผบช.ภ.8 กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางตำรวจ สภ.วิชิต ได้รับแจ้งว่าพบศพผู้เสียชีวิตที่บริเวณด้านบนน้ำตกโตนอ่าวยน หมู่ที่ 8 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีผ้าพลาสติกสีเข้มคลุมศพ สภาพศพท่อนล่างเปลือยเปล่า เมื่อเปิดพลาสติกออกพบศพเป็นหญิงชาวต่างชาติ นอนเสียชีวิตในลักษณะคว่ำหน้า สภาพศพสวมเสื้อกล้ามสีครีม มีเสื้อแจ็กเกตพันอยู่รอบเอว ใกล้กับบริเวณพบกระเป๋าเป้ของผู้เสียชีวิตซ่อนอยู่บริเวณหลังต้นไม้ และรองเท้าผ้าใบของผู้เสียชีวิตโยนทิ้งห่างจากศพ

การสืบสวนทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยวชาวสวิตเซอร์แลนด์ ชื่อ นางนิโคล ซาเว่น ไวคอรป อายุ 57 ปี สัญชาติ สวิตเซอร์แลนด์ ตำแหน่งรองผู้อำนวยการแห่งสมาพันธรัฐสวิสเยอรมนี เป็นนักท่องเที่ยวในโครงการ "Phuket Sandbox" โดยได้เดินทางเข้ามาวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 ครบกำหนดอนุญาตอยู่ในประเทศวันที่ 26 สิงหาคม 2564 ในระหว่างที่พักในภูเก็ตได้ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียง


จากการสืบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 เวลาประมาณ 11.30 น. ผู้เสียชีวิตได้ออกจากโรงแรมที่พักบริเวณอ่าวยนเพียงลำพัง เดินเท้าไปตามถนมุ่งหน้าน้ำตกโตนอ่าวยน ได้ไปถึงบริเวณทางขึ้นเวลาประมาณ 11.49 น. โดยระหว่างทางมีกล้องวงจรปิดจับภาพผู้เสียชีวิตได้ตลอดเส้นทาง และไม่ได้กลับออกมาจากที่เกิดเหตุอีกเลย

จากข้อมูลกล้องวงจรปิดบริเวณทางขึ้นน้ำตก พบผู้ต้องสงสัยขับขี่รถจักรยานยนต์ ขึ้นไปก่อนผู้เสียชีวิตจะมาถึงประมาณ 12 นาที และอีกประมาณ 3 ชม. ผู้ต้องสงสัยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับออกจากที่เกิดเหตุ จากการสืบสวนทราบว่า รถจักรยานยต์คันดังกล่าวหมายเลขทะเบียน ขมข 493 ภูเก็ต ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง มี นายธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ อายุ 27 ปี เป็นผู้ขับขี่ อยู่ที่ 11/7 หมู่ที่ 3 ต.ปากคลอง อ.กลาง จ.ภูเก็ต แต่มีที่พักอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ


จึงได้เชิญตัวมาทำการซักถาม ตอนแรกไม่ยอมรับ จึงจับถอดเสื้อและพบแผลหลายแห่ง สภาพบาดแผลเกิดมาประมาณ 4-5 วัน พบว่ามีพิรุธต้องสงสัยให้ถ้อยคำไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงหลายประการ ต่อมา จึงให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือฆ่าด้วยตนเอง โดยให้การว่า หลังจากที่ได้เดินขึ้นไปบริเวณชั้นบนของน้ำตกโตนอ่าวยนเพื่อไปหากล้วยไม้และของป่า เมื่อได้เดินลงกลับมาพบผู้เสียชีวิตนั่งอยู่บริเวณโขดหิน ได้แอบดูอยู่สักครู่ แล้วเดินเข้าไปที่บริเวณด้านหลัง ใช้มือทั้งสองข้างล็อกคอผู้ตายเพื่อต้องการทรัพย์ แต่ผู้ตายได้ต่อสู้ แล้วตกลงไปที่บริเวณแอ่งน้ำด้วยกัน จนผู้เสียชีวิตแน่นิ่ง จากนั้นได้จับผู้ตายคว่ำหน้า และใช้พลาสติกสีเข้มที่อยู่ในบริเวณนั้นมาคลุมปิดศพไว้ และใช้ก้อนหินทับไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่อไม่ให้ผู้ใดพบเห็น แล้วนำกระเป๋าเป้ไปซ่อนไว้ที่บริเวณหลังต้นไม้ ส่วนรองเท้าของผู้เสียชีวิตได้โยนทิ้งห่างจากศพผู้ตายออกไปประมาณ 10 เมตร

จากนั้นได้หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุโดยขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว และสารภาพว่า ได้นำเงินที่ได้จากกระเป้าเป้ของนักท่องเที่ยวจำนวน 300 บาท ไปซื้อเครื่องดื่ม 40 บาท ส่วนที่เหลืออีก 260 บาท นำไปซื้อยาเสพติด และซ่อมโทรศัพท์มือถือ


ต่อมา พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดภูเก็ต จึงได้จับกุมนายธีรวัฒน์ ผู้ต้องหา ตามหมายจับที่ 219/2564 ลง 7 สิงหาคม 2564 โดยกล่าวหาว่า "ฆ่าผู้อื่น" นายธีรวัฒน์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

จากการสอบสวนเพิ่มเติม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ไปรื้อค้นกระเป๋าเป้เอาทรัพย์สิน ซึ่งเป็นเงินสดของผู้เสียชีวิตไปจำนวน 300 บาท จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม "ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย" ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา


นอกจากนี้ ยังพบว่า นายธีรวัฒน์ ผู้ต้องหา เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง จับกุมเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2563 ในความผิด "ครอบครองยาเสพติดให้โทษ (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย" ตามคดีอาญาที่ 1278/2563 ลง 5 ตุลาคม 2563 ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 9 เดือน ปรับ 15,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี อยู่ระหว่างคุมความประพฤติ 1 ปี

อย่างไรก็ตาม หลังการแถลงข่าวทางภาคเอกชน 16 องค์กรในภูเก็ต ได้มอบดอกไม้และเงินจำนวน 200,000 บาท ที่ก่อนหน้าที่ได้ประกาศเป็นเงินนำจับ มอบให้ทาง ผบ.ตร. เพื่อนำไปใช้ในกิจการของการทำคดีนี้และคดีอื่นๆ ของตำรวจต่อไป





กำลังโหลดความคิดเห็น