พัทลุง - ผู้ว่าฯ จ.พัทลุง ลงติดตามโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักคลองท่าแนะ เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนควนขนุน เผยคืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 87.60 คาดโครงการจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมกราคม 2565
วานนี้ (6 ส.ค.) นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง น.ส.ศรอนงค์ สงสมพันธ์ นายอำเภอควนขนุน นางอรษา จันทร์สีดำ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพัทลุง น.ส.ธัญพร น้องเสี่ยม ประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง และนายสุวิชัย จงหวัง วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ ได้ลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนควนขนุน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยก่อสร้างแนวคันเขื่อนความ 3,474 เมตร พร้อมคันบังคับน้ำและงานก่อสร้างสะพาน จำนวน 8 ตัว งบประมาณ 188,000,000 บาท สัญญาจ้างสิ้นสุด 28 สิงหาคม 2564 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างแก้ไขสัญญาจ้าง ซึ่งผลการดำเนินงานโดยรวมทั้งโครงการพบว่าคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 87.60 และคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมกราคม 2565
สำหรับโครงการดังกล่าวจะบรรเทาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ซ้ำซากของชุมชนเทศบาลควนขนุน และชุมชนใกล้เคียง เนื่องจากพื้นที่ชุมชนเทศบาลควนขนุน และชุมชนใกล้เคียง เมื่อเกิดฝนตกหนักทำให้มวลน้ำไหลหลากจากเทือกเขาลงสู่อ่างเก็บน้ำฝายท่าแนะ อ.ศรีบรรพต เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องระบายน้ำภายในอ่างเก็บน้ำเพื่อปล่อยน้ำลงสู่ลำคลองท่าแนะ ทำให้ปริมาณน้ำดังกล่าวจะลงสู่พื้นที่ของ อ.ควนขนุน ผ่าน ต.ชะมวง ต.ควนขนุน และเทศบาลควนขนุน ทำให้น้ำเอ่อล้นลำคลองเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มภายในเขตเทศบาลควนขนุน และบริเวณใกล้เคียงทันที ในรอบปีหนึ่งๆ ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ซึ่งจากการทำโครงการดังกล่าว ดำเนินโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง จะสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากได้เป็นอย่างดี
นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า วันนี้ได้ลงติดตามความก้าวหน้าของโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนควนขนุน อ.ควนขนุน ลำคลองท่าแนะ แก้ไขปัญหาน้ำท่วมโดยการก่อสร้างคันเขื่อนกั้นน้ำเพื่อไม่ให้น้ำเอ่อล้นจากลำคลองเข้าพื้นที่ชุมชนบริเวณตลาดเทศบาลควนขนุน และบริเวณใกล้เคียง ซึ่งโครงการดังกล่าว ดำเนินการโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง งบประมาณ 188,000,000 บาท ซึ่งดำเนินการไปแล้วกว่าร้อยละ 87.60 แต่ในฤดูกาลที่จะเกิดน้ำท่วมที่จะถึงในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ โครงการดังกล่าวจะยังไม่แล้วเสร็จ ดังนั้น การแก้ไขปัญหายังจะใช้วิธีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพื่อระบายน้ำให้ทันท่วงทีเมื่อน้ำเอ่อล้นจากลำคลอง เพื่อที่จะบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้มากที่สุดหากเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ และหากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จจะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์