xs
xsm
sm
md
lg

เสริมความแข็งแกร่งให้ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” สกัดเชื้อภายนอก หยุดเชื้อภายใน ไล่ปิดสถานที่-กิจกรรมเสี่ยง ก่อนถูกโควิด-19 ตีแตก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภูเก็ตเร่งเสริมความแข็งแกร่งให้กระบะทรายแห่งความหวัง “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งทุกวัน สกัดเชื้อจากภายนอกเข้มข้น เร่งหยุดเชื้อในพื้นที่ ไล่ปิดสถานที่-กิจกรรมเสี่ยง คุมโควิด-19 ให้อยู่ ก่อนทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ล่ม


ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในภูเก็ตขยับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นมา จากก่อนหน้านี้ตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ที่เลขตัวเดียวมาตลอด แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ภูเก็ตพบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 30 คน และในวันที่ 26 ก.ค.อีก 24 คน ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ยังไม่รวมโครงการรับคนภูเก็ตกลับบ้านมารักษา และมีแนวโน้มว่ายอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในภูเก็ตจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 20 คน ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้

นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า แนวโน้มผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในภูเก็ตสูงมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.เป็นต้นมา ซึ่งจะเห็นว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยสัปดาห์แรกของเดือนอยู่ที่ 24 คน สัปดาห์ที่ 2 จำนวน 47 คน สัปดาห์ที่ 3 จำนวน 65 คน และในสัปดาห์ที่ 4 เพิ่มเป็น 87 คน

“สาเหตุที่ทำให้ภูเก็ตพบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากหลังเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มีคนจากนอกพื้นที่เดินทางเข้ามาภูเก็ตเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของคนที่เข้ามาทำงาน เข้ามาเพื่อมาต้อนรับญาติ เพื่อนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ทำให้มีคนเพิ่มในพื้นที่ เมื่อคนเพิ่มกิจกรรมต่างๆ ก็เพิ่มตาม โอกาสการติดเชื้อก็เพิ่มตาม” นายแพทย์สาธารณสุขภูเก็ต กล่าวและระบุต่อว่า


หากปล่อยให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลกระทบต่อโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่กำลังเดินไปได้สวย โดยในรอบ 26 วันที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาภูเก็ตถึง 11,806 คน และมีการจองห้องพักโรงแรมแล้ว 278,623 รูมไนต์ ทำเงินสะพัดในภูเก็ตไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท แม้รายได้ที่เกิดขึ้นอาจจะเทียบไม่ได้กับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 แต่อย่างน้อยที่สุดก็ช่วยให้เศรษฐกิจของภูเก็ตได้ขับเคลื่อน บางกลุ่มอาชีพได้เริ่มทำงาน เริ่มมีรายได้บ้างแล้ว

ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวและพักผ่อนที่ภูเก็ต เกิดความไม่เชื่อมั่นถึงความปลอดภัย ยกเลิกการเดินทางมาภูเก็ตได้ จึงจำเป็นที่ภูเก็ตจะต้องทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงให้อยู่ในระดับที่ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจสูงสุด เพื่อไม่ให้ภูเก็ตต้องเดินไปสู่การทบทวน หรือปรับลดกิจกรรมของนักท่องเที่ยว ซึ่งหมายถึงความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจะหายไปทันที เป้าหมายที่จะดึงต่างชาติเข้าให้ได้ 100,000 คน สร้างรายได้ 8,900 ล้านบาท ในช่วง 3 เดือน อาจจะเป็นแค่ฝันก็ได้

ภูเก็ตจึงต้องงัดทุกมาตรการเพื่อสกัดการแพร่เชื้อทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ เพื่อให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงรวดเร็วและต่ำที่สุด ด้วยการยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองคนเดินทางเข้าเกาะภูเก็ตเข้มข้นสูงสุด ด้วยการออกคำสั่ง กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะเดินทางเข้าภูเก็ต ระหว่างวันที่ 25 ก.ค.-2 ส.ค.2564 นี้ ทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คนภูเก็ต จะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตามที่จังหวัดกำหนด คือ ซิโนแวค (Sinovac) ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ต้องครบ 2 เข็ม ส่วนแอสตราเซนิกา (AstraZeneca) ไฟเซอร์ (Pfizer) โมเดอร์นา (Moderna) จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson and Johnson) จำนวน 1 เข็ม อย่างน้อย 14 วัน และจะต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบ ด้วยวิธี RT-PCT หรือ Antigen Test ภายใน 72 ชั่วโมงเท่านั้น ถึงจะเดินทางเข้าภูเก็ตได้

มาตรการดังกล่าวถือว่าเข้มข้นสูงสุดแล้วในการสกัดเชื้อจากาภายนอกไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ภูเก็ตทุกช่องทาง โอกาสที่เชื้อจะหลุดรอดเข้ามาน้อยมาก หากสามารถปฏิบัติได้ตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัดและจริงจัง

เมื่อมาตรการสกัดเชื้อจากภายนอกเข้มข้นสูงสุดแล้ว การสกัดเชื้อภายในเกาะภูเก็ตก็ต้องเข้มข้นเช่นกัน เพื่อ Clean and Clear เกาะภูเก็ตให้ปลอดจากโควิด-19 อีกรอบ เพื่อไม่ให้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ต้องสั่นคลอน ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 44/2564 เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติปรับมาตรการสกัดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ภูเก็ตให้เข้มข้นขึ้น ด้วยการสั่งปิดสถานที่และกิจกรรมเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ

โดยสั่งปิดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ชั่วคราว ทั้งฝั่งเซ็นทรัล เฟสติวัล และ เซ็นทรัล ฟอร์เรสต้า ทุกชั้น ทุกแผนก เป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.-2 ส.ค.64 เพื่อตรวจหาเชื้อพนักงานกว่า 3,500 คน และทำความสะอาดทั้งหมด หลังพบมีพนักงานติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนใหญ่

นอกจากนี้ ยังได้ขยายการปิดโรงเรียนออกไปจนถึงวันที่ 16 ส.ค.64 สั่งปิดสนามฟุตบอล สนามฟุตซอล สนามหญ้าเทียม สนามแบดบินตัน ลดความแออัดในตลาดสด ตลาดนัด ด้วยการจำกัดจำนวนคนใช้บริการ 4 ตร.ม./คน และห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนเกิน 100 คนขึ้น ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.นี้ เป็นต้นไป พร้อมทั้งมีการตรวจหาเชื้อเชิงรุกในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงทุกพื้นที่


เตรียมความพร้อมเตียงรองรับผู้ป่วย เพื่อสร้างความมั่นใจหากเกิดการแพร่ระบาดหนัก ภูเก็ตมีความพร้อมในการรองรับผู้ป่วย นายแพทย์เฉลิมพงศ์ สุคนธผล ผอ.โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตไม่มีปัญหาในส่วนของเตียงผู้ป่วยแต่อย่างใด มีเตียงเพียงพอในการรองรับ โดยเฉพาะในส่วนของห้องไอซียู ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตมีอยู่ 17 ห้อง และโรงพยาบาลเอกชนอีก 50 เตียง อัตราการครองเตียงน้อยมาก ผู้ป่วยโควิด-19 ในภูเก็ตส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยสีเขียว ผู้ป่วยสีแดงที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจน้อยมาก ทั้งนี้เพราะคนภูเก็ตส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีน ทำให้อาการไม่หนัก

ส่วนหอผู้ป่วยมีอยู่กว่า 200 ห้อง และสามารถขยายได้อีกกว่า 100 เตียง รวมไปถึงโรงพยาบาลสนามที่ ม.อ.ภูเก็ต 170 ห้อง และได้เตรียมความพร้อมไว้ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต อีก 265 ห้อง ที่จะเข้าปรับปรุงและสามารถพร้อมรับผู้ป่วยในอีก 3-4 วัน ทำให้ภูเก็ตมีศักยภาพในการรองรับเต็มที่


ขณะที่ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แต่อย่างใด ทางเรามีการประเมินสถานการณ์การติดเชื้อในทุกๆ 7 วัน ซึ่งการที่จะทบทวนหรือยกเลิกโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้น ไม่ได้พิจารณาจากตัวเลขผู้ติดเชื้อเพียงเงื่อนไขเดียว แต่จะต้องพิจารณาจากหลายเงื่อนไขประกอบกันไปด้วย ทั้งในส่วนของการติดเชื้อในพื้นที่ต้องไม่เกิน 90 คนต่อสัปดาห์ ซึ่งที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อให้ภูเก็ตไม่ได้เกิน 90 คน เพิ่งจะมีการติดเชื้อจำนวนที่สูงมากในสัปดาห์นี้เท่านั้น การติดเชื้อจะต้องแพร่กระจายไป 3 อำเภอ 6 ตำบล และมีคลัสเตอร์ใหญ่เกิดขึ้นจนไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ รวมไปถึงพบเชื้อกลายพันธุ์ และมีการครองเตียงของผู้ป่วยเกิน 80%

“วันนี้ภูเก็ตยังไม่ได้เดินไปถึงจุดที่จะต้องทบทวนภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หรือปรับลดกิจกรรมของนักท่องเที่ยว แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น แต่ทางจังหวัดและสาธารณสุขสามารถที่จะควบคุมการแพร่เชื้อได้ และมีศักยภาพเพียงพอในการรับมือกับการแพร่ระบาด รวมไปถึงทางจังหวัดได้ออกมาตรการเพิ่มขึ้น โดยการปิดสถานที่เสี่ยงหรือลดกิจกรรมเสี่ยง เพื่อนำไปสู่การลดลงของผู้ติดเชื้อ และยืนว่าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ยังเดินหน้าต่อ เพื่อฟื้นฟูท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของภูเก็ต” ผู้ว่าฯ ภูเก็ตกล่าวในที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น