xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป)หนุ่มเจ้าของโฮสเทลพลิกวิกฤตโควิด-19 ผุดแบรนด์ “จินหู่” ส่งบะหมี่ออแกนิกขายทั่วประเทศ แค่ 3 เดือนโต 200%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หนุ่มวิศวะเจ้าของโฮสเทล พลิกวิกฤตโควิด-19 คิดสูตรบะหมี่ออแกนิก ได้ธุรกิจใหม่ภายใต้แบรนด์บะหมี่ “จินหู่” ส่งขายทั่วประเทศ แค่ 3 เดือนโต 200% พร้อมแตกไลน์ Smart Farm ปลูกผักออแกนิก ขยายธุรกิจบะหมี่ขายแฟรนไชส์






จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปในทุกกลุ่มอาชีพ โดยเฉพาะในส่วนของผู้ประกอบการธุรกิจเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งรายใหญ่และรายเล็ก หลายคนพยายามดิ้นสู้หันไปทำธุรกิจเสริมเพื่อเดินต่อไปข้างหน้า บางรายต้องหยุดอยู่กับที่เพื่อเซฟตัวเอง เซฟเงินทุน หวังนำมาปรับปรุงกิจการให้พร้อมรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเดินทางกลับมาหลังสถานการณ์คลี่คลาย แต่สถานการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ ระลอกเดียวไม่พอ ยังมีระลอก 2 ระลอก 3 ตามมา จนถึงขณะนี้สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ความหวังดับสลาย


แต่ไม่ใช่กับหนุ่มคนนี้ “มโนสิทธิ์ แจ้งจบ” หนุ่มวิศวะ เจ้าของ “บีไฮฟ์ ภูเก็ต โอลด์ทาวน์” โฮสเทลกลางเมืองภูเก็ต ซึ่งเปิดให้บริการมาเกือบ 10 ปี มีการเติบโตของกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่องประมาณ 10-20% มองว่า ทางรอดเศรษฐกิจของภูเก็ตจะนั่งรอการท่องเที่ยวอย่างเดียวไม่ได้แล้ว แต่ภูเก็ตจะต้องเดินให้ได้หลายขาไปพร้อมกัน จึงคิดว่าจะต้องหาธุรกิจอะไรที่เข้ามาเสริมกับธุรกิจโรงแรมที่ทำอยู่เพื่อให้สามารถเดินต่อไปได้ในภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยวมีรายได้เป็นศูนย์


“มโนสิทธิ์ แจ้งจบ” บอกว่า โควิด-19 ระลอกแรกต้องปิดโรงแรมประมาณ 3 เดือน รายได้เป็นศูนย์ หลังจากนั้นก็เริ่มแง้มเมืองเพื่อรับนักท่องเที่ยวคนไทย ซึ่งรู้สึกดีใจมากและเชื่อว่าท่องเที่ยวจะกลับมาดีขึ้น มีคนไทยเริ่มกลับมาพักที่โรงแรม 10-20% คิดว่าเราน่าจะกลับมาเดินได้ แต่พอมาถึงเดือน ธ.ค.63 ทุกคนแทบล้มทั้งยืน เกิดโควิด-19 ระลอก 2 จนถึงเดือน เม.ย.64 เกิดโควิด-19 ระลอก 3 โรงแรมปิดสนิท


หลังเกิดโควิด-19 เริ่มคิดปรับกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อความอยู่รอด เพราะมองว่าการท่องเที่ยวน่าจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งช่วงที่เกิดโควิด-19 ระลอก 2 ส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่บ้าน ทำอาหารกินกัน และตัวเองเป็นคนชอบทำอาหาร ชอบกินบะหมี่ เลยคิดสูตรทำเส้นบะหมี่ขึ้นมา ทดลองทำเส้น นวดแป้งเอง นำผักมาใส่ในแป้งจนได้สูตรเส้นหมี่ออแกนิกที่ทำจากผัก และเป็นเส้นบะหมี่ทำสด ไม่ใส่สารกันบูด หลังจากทำก็โพสต์ลงโซเชียลตลอด จนเพื่อนๆ เห็นและติดต่อขอซื้อบะหมี่ของตนเข้ามาจำนวนมาก แรกๆ ก็ไม่ได้คิดจะทำขาย แต่เมื่อเพื่อนขอซื้อขอชิมก็ส่งให้


ซึ่งทำขายแบบนี้มาประมาณ 2 เดือน ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับดี นอกจากเพื่อนที่สั่งซื้อเข้ามา ยังมีลูกค้าออนไลน์จากทั่วประเทศสนใจสั่งเข้ามาจำนวนมากเช่นกัน คิดว่าเส้นทางนี้น่าจะไปได้ดี จนมาถึงเดือน เม.ย.64 จึงตัดสินใจเปิดร้านขายบะหมี่อย่างเป็นทางการ และคิดว่าการเปิดร้านขายบะหมี่ในครั้งนี้จะเป็นธุรกิจที่ยังยืน และสามารถที่จะยืนอยู่ได้ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่การท่องเที่ยวยังเดินไม่ได้ ส่วนการท่องเที่ยวกลับมาเมื่อไหร่ก็ทำควบคู่ไปกับการเปิดร้านบะหมี่ได้ จึงเริ่มต้นธุรกิจเปิดร้านบะหมี่ขึ้นภายใต้ชื่อ “บะหมี่จินหู่” (JINHU NOODLE) ซึ่งคำว่า “จินหู่” หรือบะหมี่เสือทอง มาจากภาษาจีนกลางแปลว่า “เสือทอง” ซึ่งตรงกับชื่อคุณพ่อของเขา “กิมโฮ่” ที่แปลว่า เสือทอง ในภาษาจีนฮกเกี้ยน


คอนเซ็ปต์ของร้านคือ ร้านบะหมี่เพื่อสุขภาพ เส้นบะหมี่สด ไม่ใส่สารกันบูด ใช้สูตรโบราณที่คนภูเก็ตทำกินกันมาเป็น 100 ปี เป็นบะหมี่ ออแกนิก ใช้ผักต่างๆ เช่น คะน้า แครอท จนมีบะหมี่ออแกนิกแล้ว 5 สี ซึ่งเป็นเส้นทำมาจากผักออแกนิก เช่น บะหมี่หยก ที่ให้สีเขียวจากผักคะน้า บะหมี่ทับทิม ที่ใช้บีทรูทให้สีแดง บะหมี่ไพลิน ทำมาจากกะหล่ำม่วงกับอัญชัน บะหมี่แสด ทำมาจากแครอท เป็นต้น นอกจากจะให้สีที่สวยงามแล้ว ยังได้ประโยชน์จากผักแต่ละชนิดด้วย และทุกตัวที่เลือกใช้เป็นผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เร็วๆ นี้กำลังจะคลอดออกมาอีกตัว คือ บะหมี่ที่ใช้ผักเคล เป็นส่วนผสม ซึ่งเส้นหมี่ที่ทำจากเคลจะเป็นเส้นหมี่เกรดพรีเมียม เป็น Super Food ของทางร้าน


ต้องยอมรับว่า การพลิกวิกฤตมาขายบะหมี่ นอกจากจากการขายหน้าร้านเพื่อเสิร์ฟลูกค้าในพื้นที่แล้ว เขายังพัฒนาสูตรเพื่อส่งบะหมี่ส่งขายได้ทั่วประเทศอีกด้วย ซึ่งนอกจากบะหมี่ ยังมีหมูกรอบในซองสุญญากาศ พร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ดซึ่งทำจากซีอิ๊วดำเจ้าดังของภูเก็ต สามารถเก็บในช่องแช่แข็งได้ประมาณ 3 เดือน รวมทั้งยังมีหมูแดง ไก่แดงอบที่พัฒนาสูตรเอง ผักออแกนิกที่เราปลูกเองในโรงเรือน Smart Farm ซึ่งอนาคตอาจแตกไลน์มาทำน้ำสุขภาพเพื่อจำหน่ายในร้าน และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ส่งขายได้ทั่วประเทศอีกด้วย


“มโนสิทธิ์ แจ้งจบ” บอกว่า การทำโปรดักต์แบบนี้ออกมาทำให้ธุรกิจสามารถหลุดออกจากข้อจำกัดที่เคยขายอยู่ภายในภูเก็ต สามารถส่งไปขายในจังหวัดต่างๆ ได้ด้วย ทำให้ขณะนี้ไลน์ธุรกิจทางด้านอาหารของตนโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นมาจนถึงเดือน มิ.ย.64 รายได้โตขึ้นกว่า 200% ทุกเดือน จากเดิมที่เรามีรายได้เป็นศูนย์ จากการทำธุรกิจโรงแรมเนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 นับว่าเป็นการสร้างรายได้ที่เดินมาถูกทาง


แต่อย่างไรก็ตาม “มโนสิทธิ์ เจนจบ” ยังไม่หยุดเพียงแค่นี้ เป้าหมายในอนาคตเขาตั้งใจจะขาย “แฟรนไชส์” “บะหมี่จินหู่” (JINHU NOODLE) ด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินงาน และเขาเชื่อว่าหลังเกิดโรคระบาด คนหันมาใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้น สินค้าสุขภาพจะเติบโตมากยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นคือโอกาสของเขาที่จะโดยปรับเข็มทิศธุรกิจไปสู่ Food and Travel ในเชิงสุขภาพในอนาคต


“มโนสิทธิ์ เจนจบ” บอกว่า ในอนาคตคนจะเริ่มค้นหาข้อมูลว่าโรงแรมไหนที่มีการให้บริการด้านสุขภาพมากขึ้น เราจึงจะทำท่องเที่ยวแนวสุขภาพเพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยว ตั้งแต่เข้ามาพักที่โรงแรมของเราจะได้บริการที่ดี ทำอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มีน้ำที่กินแล้วดีต่อสุขภาพ รวมถึงจัดทริปเพื่อสุขภาพ อย่างเดินป่าในภูเก็ต ดูธรรมชาติที่ดี เป็นเหมือนโรงแรมที่สามารถส่งเสริมสุขภาพของผู้ที่มาเข้าพักไปด้วยในตัว ผมคิดว่ามันจะกลายเป็นอัตลักษณ์ของโรงแรม และเพิ่มมูลค่าให้โรงแรมได้มากขึ้น


และนี่คือเรื่องราวทางออกของธุรกิจเล็กๆ ที่เลือกปรับตัวด้วยการพลิกวิกฤต และสร้างโอกาสให้ตัวเอง ภายใต้ความคิดของหนุ่มคนนี้ “มโนสิทธิ์ แจ้งจบ” หนุ่มวิศวะเจ้าของ “บีไฮฟ์ ภูเก็ต โอลด์ทาวน์” โฮสเทลกลางเมืองภูเก็ต ที่หันมาแตกไลน์ธุรกิจด้วยการคิดสูตรบะหมี่ออแกนิก จนสามารถสร้างแบรนด์ “จินหู่” ส่งขายทั่วประเทศ แค่ 3 เดือนรายได้โตเดือนละ 200%




กำลังโหลดความคิดเห็น