ยะลา - ตชด.และ อส.เบตง ล่อซื้อจับ 2 ผัวเมียค้ายาบ้า สารภาพหมดเปลือกจากผู้เสพหันมาค้าเพราะเงินดีช่วงโควิด-19 ระบาด ด้านเมียอ้างไม่รู้เรื่อง ก่อนจนมุมด้วยหลักฐานเงินล่อซื้อจึงรับสารภาพ
วันนี้ (17 ก.ค.) ร.ต.อ.มาตุภูมิ ธรรมเนียม หัวหน้าชุดปฏิบัติการการข่าว ร้อย ฉก.ตชด.445 สืบทราบว่า ที่บ้านเลขที่ 55/3 หมู่ 4 ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ ได้มี 2 สามีภรรยาลักลอบจำหน่ายยาบ้าให้กลุ่มวัยรุ่น และผู้ใช้แรงงาน จึงประสาน พ.ต.ท.อรรถพล จินตาคม ผบ.ร้อย ตชด.445 นายพิชัย แก้วจำรัส ปลัดอำเภอเบตง รับผิดชอบงานยาเสพติด ให้เจ้าหน้าที่ ตชด. และ อส.อำเภอเบตง เฝ้าติดตามดูพฤติกรรมจนสามารถวางแผนเข้าทำการล่อซื้อ โดยให้สายลับโทรศัพท์ติดต่อไปสั่งซื้อยาบ้า จำนวน 20 เม็ด ในราคา 1,600 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังกันเข้าไปแอบซุ่มดูอยู่ในสวนผลไม้ และในป่ารอบๆ บริเวณบ้านหลังดังกล่าว ก่อนที่จะให้สายลับขี่รถจักรยานยนต์ไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอำพรางเข้าไปซื้อยาบ้า
เมื่อสายลับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอำพรางไปถึง นายอัลลียาซะ มาหะมะ อายุ 38 ปี ได้เอายาบ้า จำนวน 2 หลอด รวม 20 เม็ด มาส่งให้สายลับ และรับเงินไป จำนวน 1,600 บาท แล้วนำเงินไปให้ น.ส.สุนารี อิตำ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นภรรยา เจ้าหน้าที่ตำรวจอำพรางจึงส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ที่แอบซุ่มดูอยู่รอบๆ แสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมของกลางธนบัตรล่อซื้อ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นภายในบ้าน และบริเวณรอบบ้านยังพบยาบ้าบรรจุอยู่ในหลอดอีก 5 หลอด รวม 9 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในสวนผลไม้ข้างบ้าน ซึ่งเป็นยาบ้าที่พร้อมจำหน่ายให้ลูกค้า เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบยาบ้าบรรจุอยู่ในหลอดอีก 1 หลอด จำนวน 22 เม็ด และยังพบยาบ้าอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้าแบบกดปิดดึงเปิดอีกจำนวน 21 เม็ด ในป่าหลังบ้าน ซึ่งเป็นสถานที่แบ่งยาบ้า รวมยาบ้าที่ค้นพบ จำนวน 52 เม็ด เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึดเงินสด จำนวน 3,760 บาท ซึ่งคาดว่าได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติด
จากการสอบถามเบื้องต้น นายอัลลียาซะ รับสารภาพว่า จำหน่ายยาบ้าจริง เริ่มจากการเสพก่อน พอเห็นพ่อค้าที่ขายได้กำไรดีในช่วงโควิด-19 ระบาด ตนจึงหันมาขาย ซึ่งขายมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว 2 วันจะไปรับยาบ้า 1 ครั้ง จะรับยาบ้ามาครั้งละ 1 ถุง (200 เม็ด) ในราคา 11,000 บาท แล้วนำมาจำหน่ายให้กลุ่มวัยรุ่น และผู้ใช้แรงงาน ในราคาเม็ดละ 100 บาท แต่ถ้าซื้อเป็นแถว (10 เม็ด) จะจำหน่ายในราคา 800 บาท ส่วน น.ส.สุนารี พยายามปฏิเสธ โดยบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตนรู้เพียงว่าสามีเสพ แต่ไม่รู้ว่าสามีจำหน่าย
หลังจากเจ้าหน้าที่แจ้งว่าตอนสายลับโทรศัพท์ไปสั่งซื้อยาบ้า สายลับได้โทร.ไปสั่งกับ น.ส.สุนารี และธนบัตรล่อซื้อก็ยังอยู่กับ น.ส.สุนารี เจ้าหน้าที่ซึ่งซุ่มดูอยู่รอบบริเวณบ้านเห็นเหตุการณ์ตลอด จึงยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และตั้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายอัลลียาซะ ว่าเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งนำตัวและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เบตง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป