นครศรีธรรมราช - ประมงจังหวัดนครฯ สนธิกำลังหลายหน่วยงานเข้ารื้อถอนคอกหอยและขนำ หลังนายทุนลักลอบจับจองแนวเขตกลางทะเลปากพนังกว่า 600 ไร่ เพื่อเตรียมเลี้ยงหอยแครง เผยเป็นอดีตข้าราชการจับจองเตรียมแบ่งโซนขาย
วันนี้ (9 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ศรชล.ภาค 2 ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตำรวจน้ำ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคนครศรีธรรมราช และฝ่ายปกครองอำเภอปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช สนธิกำลังเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่บริเวณอ่าวปากพนัง รอยต่อระหว่างช่วงตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก และตำบลแหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง หลังจากพบว่ามีนายทุนรายหนึ่งลักลอบนำไม้ไผ่มาปักกั้นแนวเขตในพื้นที่ปากอ่าวปากพนัง เพื่อเตรียมที่จะทำการนำลูกหอยแครงมาปล่อยในพื้นที่ มีลักษณะพฤติการณ์คล้ายกับการจับจองพื้นที่ปากอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี
โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการจับพิกัดรังวัดแนวเขต พบว่า มีการกันแนวเขตไว้รวม 620 ไร่ และได้ปลูกสร้างขนำเตรียมเฝ้าพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รื้อถอนและทำลายแนวกั้นทั้งหมดโดยรอบ และรื้อถอนขนำที่ปลูกสร้างไว้กลางอ่าวทิ้ง ก่อนเคลื่อนย้ายของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ในเบื้องต้น การสืบสวนนั้นพบว่ามีนายทุนรายหนึ่งเป็นอดีตข้าราชการที่รู้จักในชื่อ “จ่ายักษ์” เป็นผู้ดำเนินการปักแนวเขตและปลูกสร้างขนำเตรียมปล่อยลูกหอยแครง และยังพบข้อมูลการแบ่งซื้อพื้นที่อีกด้วย
นายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติการณ์จากข้อมูลที่ชาวประมงรายย่อยให้ความร่วมมือ จนพบว่าผู้ที่ดำเนินการในพื้นที่เป็นใคร แต่ในทางการดำเนินการนั้นไม่มีหลักฐาน ไม่พบการกระทำความผิดแบบซึ่งหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้โอกาสส่งคนไปแจ้งให้ทำการรื้อถอนออก แต่ปรากฏว่ายังเพิกเฉย จึงต้องเร่งทำการรื้อถอนทำลายไม่ให้มีการจับจองพื้นที่อย่างเด็ดขาด ส่วนการดำเนินการทางกฎหมายแม้ว่าทางการสืบสวนจะทราบว่าเป็นใครกลุ่มไหน แต่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอ เจ้าหน้าที่จึงใช้วิธีรื้อถอนทำลาย