xs
xsm
sm
md
lg

ผกก.สภ.กาบังชี้แจงกรณีตำรวจตัดพ้อไม่ขอฉีดวัคซีนอาจถูกออกจากราชการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยะลา - ผกก.สภ.กาบัง จ.ยะลา ชี้แจงกรณีมีตำรวจบางนายตัดพ้อไม่ขอฉีดวัคซีนอาจถูกออกจากราชการ ชี้หากมีตำรวจติดโควิด-19 จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ประจำได้ และอ้างอิงกับ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติและระเบียบตำรวจ ถ้ารักษา 2 เดือนในโรงพยาบาลขึ้นไปต้องมีการตั้งกรรมการสอบสวนให้ออกจากราชการต่อไป

วันนี้ (18 มิ.ย.) จากกรณีมีตำรวจบางนายไม่ขอรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 ว่าอาจจะเป็นเหตุผลส่วนตัวที่เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ หรือบางนายยังมีข้อมูลไม่รอบด้าน จนทำให้มีข้อมูลบันทึกไปยัง สภ.กาบัง จ.ยะลา ในการประชุมขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะทำงานบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในเรื่องข้าราชการตำรวจที่ไม่สมัครใจฉีดวัคซีน โดยให้ทำรายงานเหตุผล ข้อขัดข้อง และให้สำรวจครอบครัวตำรวจผู้ที่มีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลตาม พ.ร.ก.เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ.2553 ที่ต้องการรับวัคซีนจาก ศปม.ตร.ให้ส่งรายชื่อรายละเอียด

โดยมีหมายเหตุ 1.หากท่านใดไม่ฉีดวัคซีนถ้าเกิดป่วยและเข้ารักษาเพราะติดเชื้อจะไม่เบิกเบี้ยเลี้ยงเสี่ยงภัยให้ 2.หากป่วยเกิน 2 เดือนต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามระเบียบต่อไป โดยลงชื่อ พ.ต.อ.นรินทร์ เชษฐา ผกก.สภ.กาบัง ซึ่งข้อความจากบันทึกข้อมูลดังกล่าวถูกแชร์และส่งต่อในกลุ่มออนไลน์ จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ขอรับการฉีดวัคซีนจะถูกลงโทษทางวินัยไปจนถึงกระทบต่อหน้าที่การงาน

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ติดตามในเรื่องดังกล่าว ซึ่งทางด้าน พ.ต.อ.นรินทร์ เชษฐา ผกก.สภ.กาบัง จ.ยะลา ชี้แจงในเรื่องนี้ว่า สำหรับในพื้นของ จ.ยะลา มีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้คือระลอก 3 ซึ่งในพื้นที่ตอนนี้มีการแพร่ระบาดทุกอำเภอแล้ว (8 อำเภอของ จ.ยะลา) และตามรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่าบุคคลย่อมมีสิทธิในร่างกายผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ คือหากเราจะไปฉีดวัคซีนในตัวเขาทำไม่ได้ แตะต้องไม่ได้ ถ้าตัวเขาไม่ยินยอม

ต่อมา มีนโยบายของผู้บังคับบัญชาในระดับสูง อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกภาคส่วน ซึ่งมีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่พี่น้องประชาชน เพื่อป้องกันปราบปรามโจรผู้ร้ายและตรงนี้เป็นพื้นที่เสี่ยงด้านความมั่นคง ถ้าข้าราชการตำรวจไม่ว่าเพียงคนเดียวในสถานีตำรวจแห่งนี้ติดเชื้อร้ายต่างๆ ถ้าเราได้มีการปฏิสัมพันธ์กันตลอดเวลา ถ้ามีคนติดเชื้อแม้แต่คนเดียว สถานีตำรวจแห่งนี้ก็จะไม่มีผู้ใดปฏิบัติหน้าที่ ไม่มีใครดูแลพี่น้องประชาชน ไม่มีใครไปตั้งด่าน ไม่มีใครไปสกัดจับหรือติดตามคนร้าย ก็จะเกิดความเสียหายอย่างหนักต่อทางราชการได้ จึงต้องชี้แจงให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบ ซึ่งเขาก็เข้าใจไม่ได้มีปัญหาอะไร

แต่การที่ไปโพสต์หนังสือไปนั้น เพื่อย้ำว่าการที่ไม่ปฏิบัติตามนโยบายของผู้บังคับบัญชามันมีกฎหมายรับรองอยู่ คือ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2547 มาตรา 100 (1) ในกรณีที่ข้าราชการตำรวจเจ็บป่วยไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ประจำของตนเองได้ ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจในการที่จะให้ผู้มีอำนาจสามารถตั้งการสอบสวนให้ออกจากราชการ เพื่อรับบำเหน็จบำนาญได้ อันนี้ระยะเวลานั้นใน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เขาไม่ได้กำหนด แต่ตนเองไปอ้างอิงกับระเบียบตำรวจและกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการรับราชการกรณีเจ็บป่วยค่ารักษาในโรงพยาบาลเกินกว่า 2 เดือนขึ้นไป

ซึ่งตามระเบียบแล้วเขาจะงดเงินเดือน เมื่องดเงินเดือนแล้วในส่วนนี้ต้องมีการตั้งกรรมการกันว่าคนที่ป่วยคนนี้เขายังจะหายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่หายก็มีความจำเป็นก็ต้องให้ออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญ ส่วนกรณีที่ว่าถ้าติดเชื้อโควิด-19 ก็คือป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาล พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ความมั่นคงและจะมีสิทธิพิเศษเบี้ยเลี้ยงและเสี่ยงภัย พอมีเบี้ยเลี้ยงและเสี่ยงภัยท่านใดไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำหน้าที่ตั้งหรือตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา หรือพูดง่ายๆ คือ เจ็บป่วยหรือไปอบรม เขาจะตัดสิทธิเรื่องเบี้ยเลี้ยงและเสี่ยงภัย เพราะว่าคุณนอนอยู่โรงพยาบาลไม่ได้เสี่ยงภัย เสี่ยงภัยก็คือการออกไปทำงาน


กำลังโหลดความคิดเห็น