ชุมพร - ร่วมกันเซฟชุมพร กู้ภัย กู้ชีพปะทิว สมาคมนักข่าวชุมพร ระดมฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อจุดเสี่ยงย่านชุมชน วัด โรงเรียน รับเปิดเทอม ป้องกันแพร่ระบาดโควิด-19
วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่วัดเขาเจดีย์ ต.บางสน อ.ปะทิว จ.ชุมพร นายวิทยา บรรฑูร อุปนายกสมาคมนักข่าว จ.ชุมพร นายทิวา ทองศิริ เลขานุการสมาคมฯ นายพิเชษฐ์ ศรีสดใส กรรมการสมาคมฯ ร่วมกับสื่อท้องถิ่น เว็บไซต์ข่าวสวีนิวส์ นสพ.หลักเมือง นสพ.ฐานชุมพร นำน้ำยาฆ่าเชื้อ 9 แกนลอน พร้อมอุปกรณ์และเงินจำนวนหนึ่งในการจัดซื้อสิ่งของจำเป็นมอบให้แก่ นายดำเนิน วรพันธ์ หัวหน้ากู้ชีพกู้ภัยปะทิว นายศราวุธ พัดทรัพย์ รองหัวหน้า เพื่อนำไปใช้ในการฉีดพ่นฆ่าเชื้อตามสถานที่สาธารณะ วัด โรงเรียน ที่อยู่อาศัยย่านชุมชน ร้านอาหาร สถานประกอบอาชีพต่างๆ ตามจุดเป้าหมายและที่มีการร้องขอจากชาวบ้าน
โดยน้ำยาฆ่าเชื้อและสิ่งของต่างๆ ได้รับการสนับสนุนจากนายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ นายสราวุธ อ่อนละมัย ส.ส.ชุมพร เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ นายสรรพล แสงบ้านยาง เลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองชุมพร นายกิตติศักดิ์ พรหมรัตน์ อดีต ส.อบจ.ชุมพร นายสาธิต ศรีหฤทัย นายกสมาคมนักข่าว จ.ชุมพร และผู้ใจดีได้ร่วมกันสนับสนุนนำไปมอบให้กู้ชีพกู้ภัยปะทิว สังกัดสมาคมนักข่าว จ.ชุมพร
นายดำเนิน วรพันธ์ หัวหน้ากู้ชีพกู้ภัยปะทิว นายสราวุธ พัดทรัพย์ รองหัวหน้า กล่าวว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการกับทุกภาคส่วนร่วมกันเซฟชุมพร โดยการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามจุดเสี่ยง เช่น วัดต่างๆ เนื่องจากทุกวันพระได้มีชาวบ้านเข้าไปทำกิจกรรมและทำบุญฟังธรรมอย่างต่อเนื่อง ส่วนโรงเรียนก็ใกล้เปิดเทอมในกลางเดือนนี้ จึงได้มีการเร่งทำความสะอาดฉีดพ่นน้ำย่าฆ่าเชื้อตามทุกจุดเสี่ยงในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลปะทิว เขตเทศบาลตำบลชุมโค และอีกหลายพื้นที่ใกล้เคียงตามที่ได้สำรวจ และมีการร้องขอเข้ามา
“ขอขอบพระคุณผู้สนับสนุนน้ำยาฆ่าเชื้อและสิ่งของจำเป็นต่างๆ ในการช่วยป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในครั้งนี้ให้กู้ชีพกู้ภัยปะทิวผ่านมายังสมาคมนักข่าว จ.ชุมพร เพื่อร่วมมือกันเซฟชุมพร ซึ่งพวกเราทุกคนกู้ชีพกู้ภัยพร้อมที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อชาวบ้านจะได้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขต่อไป” นายดำเนินก ล่าว
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ของจังหวัดชุมพร มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 119 ราย เสียชีวิต 1 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 98 ราย เหลือผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่ 20 ราย