xs
xsm
sm
md
lg

แม่ทัพภาค 4 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญในพื้นที่ จ.นราธิวาส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นราธิวาส - แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญในพื้นที่ จ.นราธิวาส เดินหน้าแผนยุทธการควบคุมพื้นที่เขาตะเว สร้างความเข้าใจ ตัดวงจรการสนับสนุนขบวนการก่อเหตุ


วันนี้ (3 มิ.ย. 64) ณ ที่บังคับการทางยุทธวิธีหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กองร้อยทหารพรานที่ 4811 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 หมู่ 1 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของผู้ก่อเหตุรุนแรง ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี และ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส หลังก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่ พบความเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงอยู่ในพื้นที่ จากการลาดตระเวน พิสูจน์ทราบ ซุ่มเฝ้าตรวจลาดตระเวนเชิงรุก ทั้งกลางวัน และกลางคืน เพื่อค้นหาเป้าหมาย และควบคุมพื้นที่

ตลอดจนปฏิบัติการด้านการข่าวเชิงรุก เปิดแผนยุทธการการควบคุมพื้นที่รอบเขาตะเว และหมู่บ้านเชิงเขา เพื่อภารกิจในการควบคุมพื้นที่ไม่ให้เกิดเหตุ โดยการใช้ชุดปฏิบัติการกำลังเจ้าหน้าที่ และเครื่องมือที่มีอยู่เข้าปฏิบัติการเชิงรุกในพื้นที่เป้าหมาย ควบคุมเส้นทางขึ้นลงเขา และหมู่บ้านเชิงเขาไม่ให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้เส้นทางลงมาก่อเหตุ รวมทั้งตัดช่องทางการสนับสนุน และส่งเสบียงจากแนวร่วม โดยใช้ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนดำเนินงานการเมืองในหมู่บ้านชายขอบเขา และใช้กำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดนราธิวาสบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงบนป่าภูเขา และหมู่บ้านเชิงเขาบูรณาการส่วนราชการ และกำลังภาคประชาชน เป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแสสู่การบังคับใช้กฎหมาย โดยมี พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์รายงานความคืบหน้า

ทั้งนี้ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้เน้นย้ำสั่งให้หน่วยได้ปฏิบัติการเชิงรุก จรยุทธ์เต็มรูปแบบ กดดันคนร้ายไม่ให้หลบซ่อนตามพื้นที่ป่าเขา กวาดล้างฐานปฏิบัติการของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงบนพื้นที่ป่าภูเขา และทำลายเครือข่ายโครงสร้างหมู่บ้าน Support site ไม่ให้สามารถช่วยเหลือสนับสนุน และเป็นแหล่งพักพิงได้ ตลอดจนทำลายความพยายามการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับหลักการปฏิบัติทางยุทธวิธี ให้กำลังพลมีความเข้าใจ รวมทั้งเพิ่มมาตรการความปลอดภัยของชุดปฏิบัติการ ไม่ประมาท ตื่นตัวอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างที่สร้างความสูญเสีย บาดเจ็บแก่กำลังพล และสามารถดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน รวมทั้งควบคุมพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างปลอดภัย

นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ส่วนที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจแก่ประชาชนถึงมาตรา 189 พร้อมทั้งขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนทุกคน อย่าได้ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิด ทั้งการให้ที่พักพิง หลบซ่อน จัดหาเสบียง เพราะจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมกับระบุว่าการช่วยเหลือโจรเท่ากับเป็นโจรเหมือนกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น