ยะลา - นายอำเภอเบตง จ.ยะลา ยืนยันไร้ผลข้างเคียง หลังนำฝ่ายปกครองฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2 สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในพื้นที่
วันนี้ (14 พ.ค.) ที่ห้องประชุมภู่พัฒน์ โรงพยาบาลเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง ได้เดินทางมาเพื่อฉีดวัคซีนซิโนแวค ป้องกันโรคโควิด-19 ล็อตที่ 2 ของ อ.เบตง ในฐานะบุคลากรด่านหน้าของอำเภอเบตง ที่เป็นเมืองชายแดนของ จ.ยะลา และเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนในพื้นที่ว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีความปลอดภัยสำหรับคนไทยทุกคน โดยในครั้งนี้ได้ทำการฉีดเข็มที่ 2 ให้บุคลากรของฝ่ายปกครองอำเภอเบตง
สำหรับวัคซีนโควิด-19 ดังกล่าว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ได้รับการจัดสรร จำนวน 1,800 โดส โดยแบ่งเป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 800 โดส (400 คน) และกลุ่ม อสม. 1,000 โดส (500 คน) โดยให้บริการวัคซีนรอบแรกที่ได้รับแก่บุคลากรทางการแพทย์ และ อสม.ในพื้นที่ อ.เบตง เป็นลำดับแรก (จากมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา พิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ปลัดกระทรวง ให้ข้อแนะนำสั่งการ) ในกลุ่มเป้าหมายบุคลากรทางการแพทย์รับครบ 400 คน ส่วน อสม.ที่สมัครใจรับวัคซีน (เว้นกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป) ใน อ.เบตง จำนวน 311 คน เหลือวัคซีนในส่วนกลุ่มเป้าหมาย อสม. 189 โดส จัดสรรฉีดให้ อสม.เมืองยะลา ที่โรงพยาบาลยะลา
ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนในพื้นที่ จ.ยะลา ล็อตแรก 1,800 โดส ที่โรงพยาบาลเบตง เมื่อวันที่ 7-9 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น สำหรับวัคซีนของ จ.ยะลา ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นวัคซีนของบริษัท ซิโนแวค โดยทางโรงพยาบาลเบตง ได้จัดระบบการฉีดวัคซีนที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้รับบริการตามขั้นตอนก่อนฉีดวัคซีน
นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง กล่าวว่า วันนี้ได้พาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเบตง มาฉีดวัคซีนซิโนแวคป้องกันโรคโควิด-19 ในล็อตที่ 2 ทุกคนผ่านฉลุย ยังไม่พบว่ามีอาการแพ้แต่อย่างใด และยังไม่พบผลข้างเคียงแม้แต่คนเดียว อย่างไรก็ตาม แม้ฉีดวัคซีนแล้วก็ขอเน้นย้ำประชาชนยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย เพราะว่าวัคซีนไม่ได้ลดการแพร่เชื้อ แต่ช่วยไม่ให้ป่วยหนักหรือตาย เพราะขณะนี้ไทยยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทั้งติดเชื้อในประเทศ และมาจากนอกประเทศ ซึ่งการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ล็อตที่ 2 ใน อ.เบตง ที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนซิโนแวคเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่พบผู้มีอาการแพ้รุนแรงแม้แต่รายเดียว
นอกจากนี้ ศูนย์บริการสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดยะลา มีมติเห็นชอบคงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เนื่องจากผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังมีจำนวนสูง โดยได้ขยายเวลาปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.ถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้ ทั้งสถานบันเทิง โรงภาพยนตร์ ฟิตเนส สนามเด็กเล่น สถาบันการศึกษา สำหรับสถานที่กิจการ หรือกิจกรรม เพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบ และระเบียบ รวมทั้งมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 22) ลงวันที่ 29 เม.ย.2564 ต่อไปอีก เพื่อให้สามารถยุติการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้โดยเร็ว
จึงมีคำสั่งให้ปิดสถานที่ และใช้บังคับมาตรการที่ระบุไว้ในประกาศจังหวัดยะลา เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว 25/2564 ลงวันที่ 25 เมษายน 2564 ซึ่งมีผลตั้งแต่ 1 พ.ค.จนถึงวันที่ 18 พ.ค.2564 นั้น ยังพบมีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อน ซึ่งเกิดจากการผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง และการร่วมกิจกรรมที่มีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก จึงขยายเวลาบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดต่อไปอีก โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.ถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้ ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ