สุราษฎร์ธานี - ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเร่งเก็บหลักฐานสำคัญจากรถกระบะต้องสงสัยบรรทุกร่างพ่อค้าหอย อ.ไชยา ออกจากจุดเกิดเหตุแล้วไปชนเสาไฟฟ้า ด้านรอง ผบ.ตร.นำทีมอุ้มเข้าชี้จุดฝังร่างแต่ไม่เจอ คาดถูกย้ายที่
จากกรณี นางจินดาหรา วศินทรัพย์ อายุ 31 ปี ได้ไลฟ์เฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือหลังจากนายโกศล เรืองดุก อายุ 45 ปี สามีหายตัวไปขณะออกไปดื่มสุรากับเพื่อนที่ศาลาข้างบ้านเลขที่ 89 หมู่ 5 ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ต่อมา ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบพบเพียงรอยเลือดลากเป็นทางยาวกว่า 60 เมตร และรองเท้าแตะ และหายตัวไปอย่างปริศนาตั้งแต่คืนวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางลงมาสืบสวนคลี่คลายด้วยตัวเอง
ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (7 พ.ค.) ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 8 ได้เข้าตรวจสอบรถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ตอนครึ่งสีดำ หมายทะเบียน บห 3735 สุราษฎร์ธานี ที่จอดอยู่ในอู่ชื่อดังบริเวณใกล้สี่แยกบางใหญ่กลางใจเมืองสุราษฎร์ธานี โดยรถคันดังกล่าวมีร่องรอยการชนบริเวณด้านหน้ารถข้างซ้ายพังยับและหม้อน้ำแตก จากการสอบสวนทราบว่า รถคันดังกล่าวมีนายโจ้ 1 ในทีมอุ้มนายโกศล เป็นผู้ขับขี่ได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้า หลังจากนำร่างนายโกศล ไปใส่รถอีกคัน นายโจ้ ได้ขับรถคันดังกล่าวกลับเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานี แต่รถมาเกิดเครื่องน็อกในพื้นที่อำเภอท่าฉาง จึงเรียกรถยกไปรับนำมาเข้าอู่ โดยนายโจ้ ได้รับบาดเจ็บและได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไป
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.สุราษฎร์ธานี และ พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกันสอบปากคำนายเนส ผู้ต้องสงสัยซึ่งเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายโกศล นานกว่า 6 ชม. นายเนส ยอมเปิดปากให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้นำศพนายโกศล ที่ถูกยิงเสียชีวิตใส่ท้ายรถ ก่อนจะนำไปฝังในป่าบ้านทุ่งใสไช พื้นที่ของ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรชายฝั่ง ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี หมู่ที่ 5 ต.พุมเรียง อ.ไชยา และเป็นพื้นที่เขตติดต่อกับที่ดินของผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง
ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่า พื้นที่ดังกล่าวปกติจะไม่มีรถวิ่งผ่านเข้าออก แต่เมื่อวันที่ 4 ตนมาหาของป่าพบรอยล้อรถยนต์และหลุมขนาดใหญ่ที่มีลักษณะการถูกฝังกลบใหม่ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ โดยใช้รถแบ็กโฮมาขุดลึกประมาณ 1 เมตร ได้พบไฟแช็กและธนบัตร ฉบับละ 100 บาท และมีรอยเลือดหยดอยู่จึงเก็บตัวอย่างไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจเปรียบเทียบกับนายโกศล แต่ไม่พบร่างผู้ใด ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้ายึดรถกระบะสีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ผจ 4822 สุราษฎร์ธานี จอดหลังบ้านแห่งของพ่อตานายเนส ไปตรวจสอบ เบื้องต้น พบคราบเลือด จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นรถกระบะที่ใช้ขนศพนายโกศล
และเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หมอปลา พร้อมทนายความได้เดินทางลงพื้นที่ ได้เข้าตรวจสอบจุดที่ 1 ที่ทางเจ้าหน้าที่ขุดค้นหาศพนายโกศล จุดที่ 2 ที่ศาลาจุดเกิดเหตุ และจุดที่ 3 ที่บริเวณหน้าวัดตะกรบที่พบรอยเลือด โดยหมอปลา ได้ทำพิธีเก็บดินที่เปื้อนเลือดกลับไปทำพิธีที่เป็นความเชื่อของหมอปลา ซึ่งในเบื้องต้น หมอปลา บอกว่า การเดินทางลงมาพื้นที่ในวันนี้เป็นการร้องขอจากนางจินดาหรา ภรรยาของนายโกศล ให้ช่วยลงมาชี้เบาะแสในการตามหาร่างของสามี ซึ่งในเบื้องต้นตนระบุได้เลยว่า นายโกศล ได้เสียชีวิตไปแล้วและศพถูกทำลาย และคาดว่าวิญญาณอาจถูกพันธนาการ เนื่องจากปกติแล้วผู้ที่ล่วงลับไปแล้วจะกลับมาสื่อสารกับคนใกล้ชิด ซึ่งวันเวลาที่ผ่านมา ทุกอย่างกลับนิ่งอย่างผิดปกติ ซึ่งทำพิธีในจุดเกิดเหตุก็ไม่สามารถสื่อสารได้ ซึ่งหมอปลา ระบุว่า คดีนี้เป็นคดีผู้มีอิทธิพล หากไม่มีอะไรคืบหน้าตนขอให้ญาติร้องขอให้ทางกองปราบลงมารับคดีเพื่อล้างอิทธิพลในพื้นที่